SCGP Newsroom

รวมพลัง จิตอาสาพัฒนา SCGP “ปลูก ลด ร้อน” เพิ่มพื้นที่สีเขียว ป่าชุมชนกาญจนบุรี เนื่องในวันพ่อแห่งชาติและวันดินโลก

ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานจังหวัดกาญจนบุรี พนักงาน SCGP ชุมชนจิตอาสา พร้อมด้วย 3 โปรกอล์ฟหญิงระดับโลก โม – เม – เมียว ร่วมกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา โครงการ SCGP “ปลูก ลด ร้อน” ปลูกต้นไม้ 999 ต้น และสร้างฝายชะลอน้ำ 9 ฝาย เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2566 และวันดินโลก

 

นายรณภพ เวียงสิมมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม จิตอาสาพัฒนา โครงการ SCGP “ปลูก ลด ร้อน” ซึ่งจัดขึ้นโดยศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานจังหวัดกาญจนบุรี และ SCGP ร่วมปลูกต้นไม้ 999 ต้น และสร้างฝายชะลอน้ำ 9 ฝาย ณ ป่าชุมชนบ้านหนองหิน-เขาสูง อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อน้อมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพในวันที่ 5 ธันวาคม และวันดินโลก และเพื่อสืบสานพระราชปณิธานในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ อีกทั้งยังสอดคล้องกับแนวทางการดำเนินงานของ SCGP ด้านการส่งเสริมความยั่งยืนตามกรอบ ESG เพื่อสร้างสมดุลในทุกมิติ

 

ป่าชุมชนบ้านหนองหิน-เขาสูง อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี มีขนาดพื้นที่ 895 ไร่ เป็นป่าที่ SCGP ได้ร่วมกับราชการและชุมชนในพื้นที่ร่วมอนุรักษ์และเพิ่มพื้นที่สีเขียว เนื่องจากเป็นแหล่งต้นน้ำให้กับชุมชนโดยรอบ การฟื้นฟูผืนป่าและเพิ่มต้นไม้ในพื้นที่ป่าชุมชนต้นน้ำในครั้งนี้ จะทำให้หมู่บ้านในพื้นที่มีแหล่งน้ำใช้ มีน้ำและดินที่อุดมสมบูรณ์เพื่อการเพาะปลูก สามารถสร้างรายได้จากการทำเกษตรกรรมและมีอาหารที่ได้จากธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น เกิดการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน รวมถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ให้เกิดขึ้นในพื้นที่แห่งนี้ด้วย

 

กิจกรรมในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานราชการในพื้นที่ ผู้นำชุมชน พนักงาน SCGP และชุมชนจิตอาสารวมกว่า 500 คนเข้าร่วม นอกจากนี้ โปรกอล์ฟหญิงระดับโลก ได้แก่ “โปรโม”-โมรียา จุฑานุกาล “โปรเม”-เอรียา จุฑานุกาล และ “โปรเมียว”-ปาจรีย์ อนันต์นฤการ ได้เข้าร่วมทำกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย ซึ่งเป็นตัวแทนและแบบอย่างที่ดีให้กับคนรุ่นใหม่ในการส่งมอบแรงบันดาลใจในการรักษ์โลก และมาช่วยกันดูแลโลกใบนี้ด้วยการปลูกต้นไม้ร่วมกัน

 

SCGP ตระหนักถึงคุณค่าและประโยชน์ของต้นไม้ ตัวช่วยสำคัญในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน รวมถึงช่วยรักษาฟื้นฟูระบบนิเวศตามธรรมชาติ และคืนความสมดุลให้กับความหลากหลายทางชีวภาพ ผ่านการดำเนินกิจกรรม SCGP “ปลูก ลด ร้อน” เพิ่มพื้นที่สีเขียวในพื้นที่ต่าง ๆ โดยในปี 2566 SCGP ได้ปลูกและอนุรักษ์ต้นไม้ เพื่อเพิ่มพื้นที่ดูดซับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศในจังหวัดต่าง ๆ รวมกิจกรรมครั้งนี้ เป็นจำนวนทั้งสิ้น 56,721 ต้น และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการรักษ์โลก พร้อมส่งต่อโลกที่ยั่งยืนต่อไป

SCGP เปิดโรงงานแห่งใหม่ของ Peute เพิ่มความสามารถในการจัดหาวัตถุดิบกระดาษรีไซเคิลอีกเท่าตัว รองรับการเติบโต เสริมแกร่งบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร

เมื่อเร็ว ๆ นี้ Peute Recycling B.V., member of SCGP จัดพิธีเปิดโรงงานแห่งใหม่ ที่เมืองอัลบลาสเซอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งตั้งอยู่ติดท่าเรือรอตเตอร์ดัม แหล่งยุทธศาสตร์สำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งให้สะดวกยิ่งขึ้น และเพิ่มความสามารถในการจัดหาวัสดุรีไซเคิลได้อีกเท่าตัว ประกอบด้วย วัตถุดิบกระดาษรีไซเคิล (Recovered Paper: RCP) เพิ่มปริมาณเป็น 2 ล้านตันต่อปี และพลาสติกรีไซเคิลเพิ่มปริมาณเป็น 0.2 ล้านตันต่อปี 

การเปิดฐานการผลิตใหม่ในครั้งนี้ เป็นกลยุทธ์การสร้างการเติบโตของ SCGP ที่ช่วยสร้างความมั่นคงและเสริมประสิทธิภาพในการจัดหาวัตถุดิบในระยะยาว เพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจบรรจุภัณฑ์ทุกกลุ่ม ทั้งด้านการผลิตบรรจุภัณฑ์ต้นน้ำ ปลายน้ำ และการบูรณาการภายใน เพื่อนำเสนอโซลูชันบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร และรองรับความต้องการด้านวัสดุรีไซเคิลในตลาดโลกที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

 

‘SCGP’ คว้ารางวัลสุดยอดองค์กรยั่งยืนและสร้างสรรค์นวัตกรรมยอดเยี่ยมจาก SET

SCGP มุ่งสร้างความยั่งยืนพร้อมสร้างสรรค์นวัตกรรม ล่าสุด คว้า 2 รางวัลยอดเยี่ยม SET Awards 2023 ในกลุ่มรางวัล Sustainability Excellence ประเภทรางวัล Best Sustainability Awards และในกลุ่มรางวัล Business Excellence ประเภทรางวัล Best Innovative Company Awards ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 รวมถึงการได้เรตติ้งหุ้นยั่งยืนระดับ AAA จาก SET ESG Rating สะท้อนความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจภายใต้กรอบ ESG ด้วยการสร้างสรรค์นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์เพื่อผู้บริโภคและสร้างความยั่งยืนแก่โลก สร้างความเชื่อมั่นและยอมรับในตลาดทุนไทยและต่างประเทศ

 

SCGP ได้รับรางวัล SET Awards 2023 ที่มอบให้กับองค์กรและบุคลากรในวงการตลาดทุนไทย ในการสร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณภาพและยกระดับมาตรฐานและสร้างการเติบโตของเศรษฐกิจและสังคมในระยะยาว รวม 2 รางวัล ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ประกอบด้วย กลุ่มรางวัล Sustainability Excellence ประเภทรางวัล Best Sustainability Awards สำหรับบริษัทจดทะเบียนฯ มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงกว่า 100,000 ล้านบาท จากการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนและหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนตลอดห่วงโซ่คุณค่า ตั้งแต่การเพิ่มประสิทธิภาพการรวบรวมกระดาษใช้แล้วเพื่อนำมารีไซเคิลกลับมาใช้ใหม่ ไปจนถึงการวิจัยและพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรในการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี คำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียตามกรอบแนวคิด ESG ที่ดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี คำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียรอบด้าน พร้อมเติบโตด้านเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล

 

นอกจากนี้ SCGP ยังได้รับรางวัล SET Awards 2023 ในกลุ่มรางวัล Business Excellence ประเภทรางวัล Best Innovative Company Awards จากผลงานนวัตกรรม Detect Odor Monitoring ระบบตรวจวัดและเฝ้าระวังกลิ่นแบบครบวงจร ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเก็บข้อมูลกลิ่นเป็นดิจิทัลและมาประมวลผลโดยสมองกลปัญญาประดิษฐ์ (AI and Machine Learning) และแสดงผลแบบ Real Time ทำให้สามารถบอกอัตลักษณ์และความเข้มข้นของกลิ่นได้อย่างถูกต้องแม่นยำ ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการจัดการกลิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยในการยกระดับมาตรฐานการจัดการสิ่งแวดล้อมทางอากาศ ซึ่งนำไปสู่การบริหารและจัดการสภาพแวดล้อมอย่างยั่งยืน

 

และเมื่อเร็ว ๆ นี้ SCGP ได้ผ่านการประเมินความยั่งยืนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ SET ESG Ratings ด้วยระดับ AAA ในปีนี้ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญของบริษัทจดทะเบียนที่ดำเนินธุรกิจควบคู่กับการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคมและบรรษัทภิบาล เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในบริษัทคุณภาพ 

 

นับเป็นความภาคภูมิใจของ SCGP ที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นและทุ่มเทในการสร้างสรรค์นวัตกรรม ที่สามารถสร้างการเติบโตของธุรกิจ ควบคู่ไปกับการสร้างสมดุลตามกรอบ ESG ในมิติของสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาลได้อย่างยั่งยืนตามมาตรฐานระดับสากล จนเป็นที่ยอมรับและเป็นต้นแบบองค์กรที่มีการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้กับตลาดทุนไทย
 

Mirinda x Major Special set บรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน ที่ตอบโจทย์คนรักความสนุกทุกเจเนอเรชัน จาก SCGP

เมื่อเอ่ยถึงบรรจุภัณฑ์ คนส่วนใหญ่คงนึกถึงบรรจุภัณฑ์จำพวกกล่องใส่อาหาร จาน ชาม แก้วกระดาษ หรือบรรจุภัณฑ์สินค้าต่าง ๆ แล้วถ้าเราลองให้คุณนึกถึงบรรจุภัณฑ์ที่เอนเตอร์เทนขึ้นมาสักชิ้น คุณจะนึกถึงอะไร?

 

วันนี้ SCGP มี “Mirinda x Major Special set” เพื่อเอาใจคนชอบน้ำอัดลมและรักการดูหนังในโรงภาพยนตร์ ในรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ใช้งานได้จริงและสนุกได้มากกว่าบรรจุภัณฑ์ทั่วไปมาแนะนำให้รู้จัก

 

ทำไมต้องเป็น กล่องตู้เกมชิงตั๋วหนัง?
ภาษา จุ้ยชุ่ม และ ศิขิน อมรกิจเจริญ สองดีไซเนอร์จาก SCGP คือผู้ออกแบบบรรจุภัณฑ์สุดเจ๋งนี้ จากโจทย์ของลูกค้าที่ต้องการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้กับเครื่องดื่มโลโก้และลวดลายใหม่ ซึ่งเน้นความสนุกและสีสัน ที่จัดโปรโมชั่นร่วมกับการแจกคูปองตั๋วหนังเพื่อเพิ่มความพิเศษในการแนะนำน้ำอัดลมรีแบรนด์นี้ ดังนั้นทีมจึงคิดว่าบรรจุภัณฑ์ต้องเป็นอะไรที่ใกล้ตัวคนทุกเพศทุกวัยและทุกรสนิยม จึงเป็นที่มาของการออกแบบกล่องให้เป็นลักษณะตู้เกมที่ลูกค้าสามารถ Interact สนุกกับกล่องลวดลายตู้เกมและโรงหนัง ซึ่งเมื่อใช้งานเสร็จแล้วจะต้องไม่ทิ้งไว้ในถังขยะ ต้องทำให้ผู้บริโภคได้ใช้จริงและได้ใช้ต่อแบบคุ้มค่า จึงกำเนิดเป็น ‘Mirinda x Major Special set’ 

 

แล้วจะเป็นตู้เกมได้อย่างไร !?
Mirinda x Major Special set จึงถูกรังสรรค์ขึ้นจากกระดาษลูกฟูก ลอน E ซึ่งเป็นกระดาษคุณภาพดี ไม่เปื่อย ไม่ยุ่ยง่าย ไม่มีกลิ่น สามารถรับแรงกดตามความสูงลอนได้สูงมาก ทำให้คงทน ยืดระยะการใช้งานได้นานขึ้น ส่วนลวดลายต้องดึงดูดผู้บริโภคตั้งแต่แวบแรกที่เห็น ผู้ออกแบบจึงเนรมิตให้มีลวดลายที่ผสมผสานระหว่างตู้เกม arcade สมัยก่อนและโรงหนัง เพื่อสื่อถึงความสนุก ที่เป็น concept หลักของลูกค้าเครื่องดื่มและลูกค้าโรงหนัง แถมยังเป็นบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สามารถใช้งานอย่างคุ้มค่า และนำไปรีไซเคิลเพื่อใช้งานได้ใหม่ด้วย

 

โดยข้างในตัวกล่องจะบรรจุเครื่องดื่มไว้ 4 กระป๋อง ตั๋วหนัง 1 ใบ และคูปองส่วนลดเครื่องดื่มและป๊อปคอร์น ที่มีลูกเล่นให้ได้ลุ้น โดยสามารถดึงเครื่องดื่มจากฐานด้านล่างของกล่องเกมตามแนวนอน เมื่อดึงกระป๋องแรกออกมา กระป๋องที่เหลือก็จะหล่นลงมาตามล็อกแบบเป็นระเบียบ ตัวกล่องหรือตู้เกมก็จะไม่บุบ หรือเสียทรงจนกว่าจะดึงกระป๋องเครื่องดื่มออกมาให้ครบ เมื่อดึงกระป๋องเครื่องดื่มออกมาจนครบ ก็จะพบกับตั๋วหนังและคูปองลดราคาเครื่องดื่มและป๊อปคอร์น  แค่คิดก็สนุกแล้ว

 

ผู้บริโภคได้อะไร?
บรรจุภัณฑ์นี้ได้ทั้งประโยชน์การใช้สอยและความสนุก และเมื่อผู้บริโภคสนุกกับเกมก็สามารถเก็บตัวบรรจุภัณฑ์ไปเล่นซ้ำได้อีก ไม่ต้องเก็บความสนุกไว้คนเดียว อาจจะซื้อเครื่องดื่มรสชาติที่คุณชอบ จัดเรียงในช่องล็อกกระป๋อง แล้วจับเข้าไปในตู้เกมอีกรอบ โดยชวนเพื่อนหรือครอบครัวมาสนุกด้วย และแน่นอนว่าบรรจุภัณฑ์ยังคงความคงทน ใช้ง่าย ไม่ซับซ้อน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่มากสมรรถนะและไม่จำเจ

 

ชิ้นงานสร้างสรรค์ “Mirinda x Major Special set” ของนักออกแบบ SCGP นี้ ถูกใจผู้บริโภคและใช้งานได้จริง และยังได้รับรางวัลชนะเลิศ ประเภทบรรจุภัณฑ์เพื่อการจัดจำหน่าย สำหรับสินค้าที่มีจำหน่ายในท้องตลาด Consumer Package : CP จากเวที Thaistar Packaging Awards 2021 ด้วย ถือเป็นหนึ่งตัวอย่างงานออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ SCGP คิดและสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ สนองความต้องการของทุกชีวิตให้ทันโลกทันสมัยอย่างยั่งยืนและสวยงาม

SCGP รับรางวัลดีเด่น Thailand Energy Awards จากผลงานนวัตกรรมเตาเผาไหม้เปลี่ยนของเหลือใช้เป็นพลังงานทดแทน

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน  มอบรางวัล Thailand Energy Awards 2022 รางวัลดีเด่นด้านพลังงานสร้างสรรค์ จัดโดยกระทรวงพลังงาน ให้แก่ บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP โดยมี นายอดิศักดิ์ วรคุณพินิจ ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนานวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ เป็นตัวแทนรับมอบ จากผลงานนวัตกรรมเตาเผาไหม้ระดับโรงประลองเพื่อปรับปรุงการใช้เชื้อเพลิงและส่งเสริมการใช้พลังงานชีวมวลอย่างมีประสิทธิภาพ ที่โดดเด่นในการนำเชื้อเพลิงทางเลือกต่าง ๆ เช่น ใบอ้อย ฟางข้าว เปลือกไม้ เศษวัสดุเหลือใช้ทางเกษตร และของเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม มาใช้ร่วมกับถ่านหิน ให้สามารถใช้ได้กับหม้อต้มไอน้ำอุตสาหกรรม ถือเป็นนวัตกรรมที่ช่วยส่งเสริมการนำของเหลือใช้มาสร้างมูลค่าเป็นพลังงาน ลดการพึ่งพาถ่านหินนำเข้าจากต่างประเทศ ส่งเสริมนโยบายของประเทศเรื่องการเพิ่มการใช้พลังงานทดแทน นำทรัพยากรภายในประเทศมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อีกทั้งยังช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ เกิดประโยชน์โดยองค์รวมต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม พิธีมอบจัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมรามา การ์เด้น กรุงเทพฯ

SCGP Packaging Speak Out 2023 – Việt Nam: Sân chơi của các nhà thiết kế bao bì trẻ, thúc đẩy các sáng kiến lấy người dùng làm trọng tâm

 

Thành phố Hồ Chí Minh, ngày 11 tháng 11 năm 2023 – Cuộc thi SCGP Packaging Speak Out 2023 – Việt Nam đã chính thức khép lại hành trình sau ba tháng với hơn 97 bài dự thi từ các trường đại học, cao đẳng trên khắp cả nước. Vượt qua nhiều thí sinh tiềm năng, 10 đội thi đã xuất sắc tiến vào vòng chung kết với những ý tưởng thiết kế sáng tạo dựa trên đề tài “Bao bì thúc đẩy bán hàng” cùng chủ đề “Góp sáng kiến, tạo tương lai”. Thông qua cuộc thi, SCGP kỳ vọng góp phần ươm mầm những tài năng trẻ tại Việt Nam và khẳng định cam kết mạnh mẽ của mình trong việc thúc đẩy đổi mới sáng tạo trong ngành bao bì. Sau vòng chung kết, đội Scoopy từ Trường Đại học Kiến Trúc TP.HCM – chủ nhân ý tưởng bộ quà hạt tết “Giao”, đã giành giải thưởng cao nhất với thiết kế được lấy cảm hứng từ chiếc kiệu cưới đặc trưng trong tác phẩm tranh Đông Hồ quen thuộc: “Đám cưới chuột”. Bài dự thi được đầu tư bài bản với tính ứng dụng cao cùng phần trình bày ấn tượng đã giúp Scoopy nhận được những đánh giá tích cực từ các chuyên gia đầu ngành về thiết kế bao bì.

 

SCGP Packaging Speak Out 2023 – Việt Nam là một trong những nền tảng quan trọng trên hành trình hiện thực hóa cam kết thúc đẩy sản phẩm và dịch vụ sáng tạo trong các lĩnh vực hoạt động của SCGP; từ đó, góp phần nâng tầm chất lượng cuộc sống của mọi người, cộng đồng, xã hội và dựa trên các khía cạnh của chiến lược ESG (môi trường, xã hội, quản trị). Ngoài ra, cuộc thi còn mang đến nguồn cảm hứng đặc biệt cho các bạn sinh viên đam mê thiết kế bao bì, tạo nên sân chơi chất lượng để nuôi dưỡng và thể hiện tài năng sáng tạo. Không chỉ vậy, SCGP Packaging Speak Out 2023 – Việt Nam còn hướng đến việc khơi dậy những ý tưởng bao bì sáng tạo giúp doanh nghiệp mở rộng thị trường và tăng doanh thu, thông qua việc nâng cao chất lượng sản phẩm và cải thiện trải nghiệm khách hàng. 

Một trong những điểm nổi bật của cuộc thi năm nay là buổi hội thảo chuyên đề, thu hút gần 200 người tham dự. Hội thảo giúp các bạn sinh viên tìm hiểu sâu hơn lĩnh vực thiết kế bao bì và trau dồi ý tưởng nhằm tiếp cận người tiêu dùng một cách hiệu quả. Đây cũng là một hoạt động chia sẻ kiến thức hữu ích, nơi các chuyên gia trong ngành và các tài năng trẻ hội tụ để khám phá “công thức” tạo nên sự đổi mới sáng tạo cho bao bì.

 

Tiếp nối thành công của buổi hội thảo, vòng chung kết của cuộc thi diễn ra tại Đại học Greenwich Việt Nam vừa qua cũng đã nhận được sự ủng hộ và góp mặt của đông đảo khán giả đến từ các trường đại học, cao đẳng trên địa bàn TP.HCM. Tại đây, người tham gia đã có cơ hội khám phá triển lãm trưng bày 10 ý tưởng xuất sắc nhất, ẩn chứa sự sáng tạo và niềm đam mê của các tài năng thiết kế trẻ trong kinh doanh và phát triển bao bì bền vững. 

Ông Chamornwut Tamnarnchit, Tổng giám đốc – Công ty Cổ phần Sản xuất Nhựa Duy Tân (Công ty thành viên trực thuộc SCGP), chia sẻ: “Tại SCGP, chúng tôi tự hào là đơn vị tiên phong thúc đẩy sự đổi mới, kiên định cống hiến cho sự bền vững và không ngừng đóng góp vào sự phát triển của ngành bao bì. Thông qua cuộc thi SCGP Packaging Speak Out 2023 – Việt Nam, chúng tôi tôn vinh những thiết kế bao bì sáng tạo và ghi nhận những đóng góp của các tài năng trẻ. Chúng tôi xem các bạn là những nhà lãnh đạo tương lai, những người sẽ dẫn dắt ngành công nghiệp này hướng tới sự phát triển bền vững cùng nền kinh tế tuần hoàn. Sự kiện ngày hôm nay một lần nữa đã minh chứng cho những cam kết của chúng tôi trong việc định hình một tương lai đầy trách nhiệm và sáng tạo cho bao bì”.

 

“Việc nghiên cứu và phát triển bao bì thực sự có thể tạo ra sự khác biệt cho doanh nghiệp so với các đối thủ cạnh tranh, giúp để lại dấu ấn cho mọi khách hàng ngay khi họ vừa bước chân vào một cửa hàng hoặc khi đang lướt một trang mua sắm bất kì. Các thiết kế bao bì tại vòng chung kết hoàn toàn có thể trở thành đại diện của thương hiệu. Bên cạnh đó, với xu hướng phát triển bền vững hiện nay, những thiết kế này cũng sẽ tạo nên mối dây độc đáo để các doanh nghiệp kết nối với khách hàng tiềm năng.” ông Chamornwut chia sẻ thêm.

Cuộc thi năm nay đã mang đến một loạt các bài dự thi ấn tượng, mỗi bài dự thi là minh chứng cho sự sáng tạo và đổi mới đáng chú ý trong lĩnh vực thiết kế bao bì. Điển hình, đội Quán quân đã mang đến một bộ quà hạt Tết với thiết kế lấy cảm hứng từ tranh Đông Hồ. Bài dự thi giành giải nhất nhờ ý tưởng thú vị, mang lại tiềm năng cao trong việc thúc đẩy doanh số bán hàng và nâng cao nhận diện thương hiệu gắn với các yếu tố văn hoá truyền thống. Bên cạnh đó, Lotus và Water Lily – Á quân của cuộc thi cũng đã gây ấn tượng với hộp đồ chơi sưu tầm IBRICK. Thiết kế này giúp phần hộp đựng có khả năng tùy biến linh hoạt, người dùng có thể tận dụng bao bì sản phẩm để lưu trữ lâu dài kết hợp trang trí. Ngoài ra, tận dụng bao bì đã qua sử dụng để tạo thành các trò chơi mang tính giải trí cao, các bài dự thi như Bộ đồ chơi đất sét khô Hazimo từ đội Meow; bao bì cho sản phẩm Cocktail Festa từ đội Hai Con Cá Hồi Hoang; và bộ hộp đựng quần áo trẻ em từ đội 3 Chị Em đã đồng thời đạt hạng ba chung cuộc.

 

Hà Chiều Xuân, đại diện Đội Scoopy, Quán quân Cuộc thi năm nay hào hứng cho biết: “Chúng em rất hạnh phúc và cảm thấy may mắn khi giành được ngôi vị cao nhất trong cuộc thi năm nay. Chiến thắng này là nguồn động lực to lớn để em cùng các bạn có thể tiếp tục với đam mê tạo ra các thiết kế bao bì không chỉ đẹp mà còn để lại ấn tượng lâu dài trong lòng người tiêu dùng. Chúng em cũng xin được gửi lời cảm ơn chân thành đến SCGP vì đã tổ chức cuộc thi ý nghĩa này. Cuộc thi thật sự là một cơ hội tuyệt vời để thúc đẩy tình yêu và kỳ vọng được tạo ra các tác động tích cực trong thế giới bao bì của chúng em”. 

 

“Trong suốt cuộc thi, đội của chúng em đã được học hỏi thêm nhiều bài học giá trị và cảm thấy đặc biệt ấn tượng bởi những chia sẻ cùng những kiến thức chuyên môn quý giá từ các chuyên gia trong ngày tại hội thảo chuyên đề. Chúng em rất biết ơn SCGP vì đã tạo nên sân chơi này chúng em cùng các bạn thể hiện kỹ năng và sự sáng tạo của mình.” Vy Trương, đại diện đội Lotus and Water Lily, Á quân Cuộc thi năm nay chia sẻ.

 

Cuộc thi SCGP Packaging Speak Out 2023 – Việt Nam đã góp phần nhấn mạnh vai trò tiên phong của SCGP trong việc thúc đẩy đổi mới sáng tạo và sự bền vững trong ngành bao bì Việt Nam. Cuộc thi đồng thời là một nền tảng để nuôi dưỡng các tài năng trẻ và thể hiện cam kết của SCGP trong việc định hình một tương lai đổi mới sáng tạo và bền vững hơn của ngành – phù hợp với thói quen của người tiêu dùng hiện đại cũng như thân thiện với môi trường. Để biết thêm thông tin về ý tưởng thiết kế bao bì của thí sinh, vui lòng truy cập website:

 https://thechallenge.scgpackaging.com/en/ideaTank-vn 

 

‘ศิริราช’ จับมือ ‘SCGP’ สร้างภาพลักษณ์กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางครั้งใหญ่ ปรับบรรจุภัณฑ์ เพิ่มความสะดวก ตอบโจทย์ผู้ใช้งานทุกกลุ่ม

‘ศิริราช’ จับมือ ‘SCGP’ สร้างภาพลักษณ์กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางศิริราชครั้งใหญ่ ผ่านโซลูชันบรรจุภัณฑ์ครบวงจร ด้วยการสร้างอัตลักษณ์และบรรจุภัณฑ์ทุกผลิตภัณฑ์ให้ทันสมัย สวยงาม ใช้งานได้อย่างสะดวก และมุ่งเน้นความยั่งยืน พร้อมเพิ่มโอกาสขยายฐานลูกค้าใหม่ได้เข้าถึงผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางคุณภาพ

 

ศาสตราจารย์ นายแพทย์อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า โรงพยาบาลศิริราชมีพันธกิจในการดูแลผู้ป่วยที่มาเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ป่วยว่าจะได้รับบริการทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐานตามหลักวิชาชีพ โดยอาศัยความองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญของแพทย์ ผนวกกับการใช้ยาที่ถือเป็นอาวุธสำคัญในการรักษา ดังนั้น โรงพยาบาลศิริราชจึงได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางสูตรเฉพาะของโรงพยาบาลขึ้น เพื่อตอบสนองการรักษาให้มีประสิทธิภาพกว่าเดิม โดยเริ่มผลิตครั้งแรกเมื่อปี 2548 ภายใต้ลิขสิทธิ์ของโรงพยาบาลศิริราช เช่น แชมพูสำหรับผู้มีปัญหาหนังศีรษะ ครีมกันแดดที่ไม่มีส่วนผสมของสารเคมี เป็นต้น ตลอดระยะเวลาเกือบ 20 ปี ที่ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางของโรงพยาบาลศิริราชเป็นที่ยอมรับของผู้ป่วยและประชาชนทั่วไป ทำให้โรงพยาบาลศิริราชมีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มศักยภาพการผลิต ตลอดจนปรับภาพลักษณ์บรรจุภัณฑ์ให้มีความทันสมัย สร้างคุณค่าและความพึงพอใจ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น    

 

รองศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ยงยุทธ ศิริวัฒนอักษร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช กล่าวว่า โรงพยาบาลศิริราชได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง 15 ชนิด เช่น แชมพู ครีมกันแดด ครีมอาบน้ำ โลชั่นบำรุงผิว เป็นต้น เดิมดีไซน์ของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางยังไม่สามารถสร้างภาพลักษณ์ให้เป็นที่จดจำ อีกทั้งบรรจุภัณฑ์ยังยากต่อการใช้งาน ดังนั้น โรงพยาบาลศิริราชและบริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP จึงร่วมมือกันปรับภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางของโรงพยาบาลศิริราชครั้งใหญ่ โดยเริ่มตั้งแต่การออกแบบโลโก้เป็นรูปทรงวงกลม สื่อถึงภาพลักษณ์ที่มีความน่าเชื่อถือและรู้สึกภูมิใจที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของโรงพยาบาลศิริราช อีกทั้งยังมีการออกแบบกราฟฟิกและรูปทรงของบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงาม ทันสมัย ใช้งานง่ายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น เพื่อตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภคเดิม ตลอดจนครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายที่มีความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางคุณภาพ

 

ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รองประธานกรรมการศิริราชมูลนิธิ คนที่ 1 กล่าวว่า ศิริราชมูลนิธิเป็นองค์กรสาธารณกุศล เพื่อให้การรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วย ส่งเสริมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ตลอดจนสนับสนุนการศึกษาและการค้นคว้าวิจัยที่เป็นประโยชน์ของบุคลากรทางการแพทย์ โดยศิริราชมูลนิธิได้สนับสนุนกิจการของคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล จึงจัดตั้งบริษัท ศิริราชบำรุงเวช จำกัด สำหรับดำเนินงานในรูปแบบบริษัทวิสาหกิจเพื่อสังคม ปัจจุบันมีร้านค้าภายใต้บริษัท ศิริราชบำรุงเวช จำกัด ในการดูแลช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางของโรงพยาบาลศิริราช

 

นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP กล่าวว่า SCGP ได้มุ่งนำเสนอโซลูชันบรรจุภัณฑ์ครบวงจร พร้อมทั้งนำเสนอนวัตกรรมสินค้าและบริการที่หลากหลาย ครอบคลุมการออกแบบ ผลิต และจำหน่าย เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน โดย SCGP ได้ร่วมมือกับศิริราชในการร่วมคิดและพัฒนา ตั้งแต่การวิจัย การออกแบบโลโก้ที่มีเอกลักษณ์ การออกแบบและพัฒนาบรรจุภัณฑ์ ให้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางในแต่ละสูตร คงคุณภาพไว้ได้นาน และคำนึงถึงการใช้งานของลูกค้าให้ใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น รวมถึงการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ด้านความยั่งยืน SCGP ยินดีที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้กับศิริราช และช่วยให้คนไทยได้เข้าถึงผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางคุณภาพ ทั้งนี้ SCGP และศิริราช ยังได้มีแผนขยายความร่วมมือในการพัฒนาและยกระดับผลิตภัณฑ์กลุ่มอื่น ๆ ของศิริราช โดยจะเน้นการใช้นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสมาร์ทแพคเกจจิ้ง เพื่อร่วมกันสร้างประสบการณ์ที่ดี คุณภาพชีวิตที่ดีแก่ลูกค้าและผู้บริโภค รวมถึงสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนร่วมกัน
 

คว้าทุกโอกาส กล้าลุยทุกความท้าทาย กับ มหาศาล ธีรวรุตม์

พี่ใหญ่ – มหาศาล ธีรวรุตม์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทสยามฟอเรสทรี จำกัด คือหนึ่งในผู้บริหารที่ร่วมเดินทางกับครอบครัว SCG มายาวนานเกือบสามทศวรรษ P-DNA ฉบับนี้จึงขอชวนพี่ใหญ่มาพูดคุยถึงแนวคิดและวิธีการทำงานที่น่าสนใจ พร้อมผลักดันให้ทุกคน “กล้า” ที่จะคว้าทุกโอกาสและลงมือทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน

ตอบรับทุกโจทย์งาน เท่ากับได้แสดงฝีมือ

พี่ใหญ่เริ่มต้นก้าวเข้าสู่ครอบครัว SCG ในตำแหน่งนักวิเคราะห์ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ดูแลเรื่องการขนส่งปูนซีเมนต์และวัสดูก่อสร้างประมาณ 2 ปี จากนั้นได้รับทุนการศึกษาต่อด้านวิศวกรรมที่ Asian Institute of Technology (AIT) เมื่อเรียนจบก็เป็นจังหวะที่ SCG กำลังขยายธุรกิจ มีโอกาสได้เข้าไปทำงานในอุตสาหกรรมรถยนต์ ตำแหน่งหัวหน้าแผนกวางแผนการผลิตซึ่งต้องดูแลพนักงานที่มีอายุและประสบการณ์มากกว่า เป็นช่วงที่ต้องปรับตัวค่อนข้างมาก แต่ถือเป็นโอกาสดีในชีวิตที่ได้ลองทำสิ่งใหม่ ๆ

“ประมาณปี 2538 SCG เริ่มวางระบบไฟเบอร์ออปติกเองเป็นครั้งแรก พี่มาช่วยดูแลเรื่องไอทีและเรื่องการนำระบบ TQM (Total Quality Management) จากญี่ปุ่น มาใช้ในการบริหารคุณภาพงาน ต่อมาได้รับ

การซักชวนให้ไปช่วยทำระบบบริหารคุณภาพงาน ISO 9000 พี่ก็ตอบตกลงทันที ไปอยู่ที่นั่นทำงานคนเดียวและเป็นงานใหม่ที่ไม่เคยทำมาก่อน ต้องอาศัยปรึกษาพี่ ๆ ที่รู้จักกันทำจนสำเร็จ หลังจากนั้นมีโอกาส

ได้ทำเรื่องระบบติดตามรถ ตอนนั้นเทคโนโลยี 3G เพิ่งมา พี่เป็นกลุ่มแรก ๆ ที่นำซิมการ์ดไปใส่เพื่อใช้ GPS ติดตามรถขนส่ง

“สไตล์พี่คือ ตอบรับทุกโอกาส จะไม่ปฏิเสธงาน เพราะเชื่อว่าผู้ใหญ่คิดมาดีแล้วว่า ใครควรจะอยู่ตรงไหน และแต่ละครั้งที่ย้ายเราไม่เคยรู้มาก่อนว่าต้องทำอะไรบ้าง ทุกอย่างเริ่มต้นใหม่จากศูนย์ ทำให้เราต้องเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา”

ก้าวสู่โอกาสใหม่ในธุรกิจแพคเกจจิ้ง

ในปี 2554 พี่ใหญ่ได้เริ่มก้าวสู่ธุรกิจแพคเกจจิ้ง โดยเริ่มที่บริษัทสยามคราฟท์อุตสาหกรรม จำกัด ดูแลเรื่องการบริหารคลังและจัดส่งซึ่งเป็นงานถนัด พี่ใหญ่เล่าว่าเป็นสิ่งที่ภูมิใจครั้งหนึ่งในชีวิตการทำงานเพราะได้รับผิดชอบโครงการ Automated Warehouse ซึ่งถือเป็นสิ่งใหม่และเป็นก้าวสำคัญของบริษัทฯ หลังจากโครงการสำเร็จก็ได้รับโอกาสใหม่มาที่บริษัทสยามฟอเรสทรี จำกัด และใช้เวลากับบ้านหลังนี้ยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน

บริษัทสยามฟอเรสทรี จำกัด ใน SCGP ให้บริการครบวงจรเกี่ยวกับไม้ยูคาลิปตัส ตั้งแต่กระบวนการพัฒนาสายพันธุ์ให้เหมาะสมกับทุกสภาพการเพาะปลูก จำหน่ายกล้าไม้ ให้คำแนะนำการปลูก จนถึงการรับซื้อไม้คืนจากเกษตรกร ขณะเดียวกันยังขยายธุรกิจไปในด้านการเกษตรภายใต้แบรนด์คู่ดินอีกด้วย

“เดิมแบรนด์คู่ดินขายเฉพาะปุยอินทรีย์ และตอนที่พี่ย้ายมาลูกค้ายังไม่ค่อยรู้จักแบรนด์มากนัก เพื่อให้มียอดขายเพิ่มขึ้นและคุ้มค่ากับการลงทุนด้านแบรนด์ จึงได้ขยายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์คู่ดินไปเป็นปุ๋ยเคมีและอุปกรณ์ที่ใช้ในการเกษตรอื่น ๆ ด้วย ปัจจุบันแบรนด์คู่ดินเป็นที่รับรู้ของตลาดในกลุ่มของเกษตรกรพอสมควร เราเจาะกลุ่มเป้าหมายผ่านร้านค้าย่อยต่าง ๆ พอเขารับรู้ว่าสินค้ามีคุณภาพดี สม่ำเสมอ ยอดขายก็โตอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้น เรายังสร้างแบรนด์ควบคู่กันไป โดยช่วยร้านค้าในเรื่องการจำหน่าย ส่งเสริมการขาย สร้างความมั่นใจพร้อมเป็นพันธมิตรที่เติบโตไปด้วยกันกับลูกค้า”

ทัศนคติสำคัญที่สุด

แนวคิดการทำงานของพี่ใหญ่สะท้อนทัศนคติที่ดีในทุกช่วงเวลาการมองโลกในแง่บวก ตอบรับงานที่ได้รับมอบหมาย และมีกำลังใจที่ดีอยู่เสมอ ทุกครั้งที่เจอความท้าทาย พี่ใหญ่จะโฟกัสว่าจะทำอย่างไรให้งานนั้นสำเร็จ แม้จะไม่ใช่งานที่รับผิดชอบโดยตรง แต่ก็อยากทำให้ดีขึ้นและยึดถือประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ ในบทบาทของผู้บริหารจะต้องใช้ความเข้าใจ ส่งเสริมและผลักดันให้ทีมงานกล้าลอง กล้าทำสิ่งใหม่ เพื่อเป้าหมายเดียวกันขององค์กร

“พอมาเป็นหัวหน้า สิ่งที่ต้องทำเสมอคือ การลงไปดูหน้างานจริงให้เข้าใจ ไม่ใช่นั่งคิดเอาเอง พี่มักจะไปคุยกับน้อง ๆ ให้กำลังใจกันมีปัญหาอะไรก็คุยกัน นอกจากนั้นคือ การเรียนรู้สิ่งใหม่และการนำมาใช้ เราต้องเข้าใจว่าการทำอะไรใหม่ ๆ อาจมีความผิดพลาดและล้มเหลวบ้าง แต่ต้องไม่ปล่อยให้ผิดซ้ำ ต้องเรียนรู้และหาทางป้องกัน เช่น ครั้งหนึ่งเราต้องการเอาโดรนทางการเกษตรมาใช้เพื่อช่วยลดต้นทุน แต่เมื่อก่อนไม่มีใครกล้าบินเพราะค่าใช้จ่ายสูงเครื่องตกทีหนึ่งเสียค่าใช้จ่ายหลายหมื่น พี่ลองให้ทีมงานทำแล้วก็เป็นอย่างที่คิดคือเครื่องตกจริง ๆ แต่แทนที่จะถามเขาว่าทำไมถึงตกเราถามว่าจะป้องกันอย่างไรเพื่อไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก ทีมงานก็ได้เรียนรู้และมีความกล้าที่จะใช้ จนทุกวันนี้เราได้ประโยชน์จากเรื่องนี้เยอะมาก

“อีกเรื่องคือการปรับตัว พี่บอกทีมอยู่เสมอว่า ถึงจะมีแผนอยู่แล้วก็ควรเตรียมพร้อมว่า หากไม่เป็นไปตามแผนแล้วจะมีทางเลือกอย่างไรงานปัจจุบันเป็นการวางแผนระยะยาว เพราะปลูกต้นไม้ต้องใช้เวลาเราต้องมองไป 5 – 10 ปีข้างหน้า ต้องมีแผนสำรองไว้ และปรับตัวให้ทันต่อปัจจัยภายนอกอยู่เสมอ

“อยากให้น้อง ๆ ทุกคนมีทัศนคติที่ดี มีใจที่เปิดกว้างต่อสิ่งใหม่และนำมาใช้พัฒนาตัวเองตลอดเวลา คิดเสมอว่าที่ที่เราอยู่สามารถเปลี่ยนอะไรให้ดีขึ้นได้บ้าง อย่ายึดติดกับที่เดิม ๆ ต้องพัฒนาตัวเองในเรื่องใหม่อยู่ตลอด สำคัญคือเรื่องสุขภาพต้องดูแลให้ดี การออกกำลังกายจะช่วยให้เรามีกำลังทั้งร่างกายและจิตใจ สามารถสู้กับทุกโจทย์ ทุกความท้าทายได้ และต้องมีจิตใจที่ดี การทำงานมีอุปสรรคหรือข้อจำกัดทั้งนั้น อย่าจมอยู่กับมันมากไป

“สุดท้ายนี้ องค์กรเรามีเครื่องมือบริหารจัดการและเทคโนโลยีที่ดีมากอยู่แล้ว ขอให้น้อง ๆ ทุกคนพยายามใช้เครื่องมือเหล่านั้นพัฒนาตัวเองพัฒนาหน่วยงาน เพื่อให้องค์กรเราไปถึงระดับ World Class ให้ได้นะครับ” พี่ใหญ่ฝากข้อคิดทิ้งท้าย

SCGP ได้รับรางวัลประกาศเกียรติคุณ จากไทยเบฟเวอเรจ รับรองความเป็นพันธมิตรที่มุ่งเน้นด้านความยั่งยืน

SCGP นำโดยพี่เอกราช นิโรจน์ Enterprise Marketing Director – SCGP เป็นตัวแทนรับมอบรางวัล Business Partner Award 2023 รวมทั้งสิ้น 2 รางวัล ได้แก่ รางวัล Innovation Award และรางวัล Silver Award จากบริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ในงาน SX Partnerships for the Goals : Thailand  Supply Chain Network  Business Partner Conference  2023 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 

รางวัลดังกล่าวถือเป็นรางวัลประกาศเกียติคุณสำหรับคู่ค้าที่มีผลการดำเนินงานยอดเยี่ยม และมีความมุ่งมั่นในการบริหารจัดการด้านความยั่งยืน ประจำปี 2565-2566 เพื่อผลักดันให้เกิดความร่วมมือกัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและการยอมรับจากคู่ค้า เป็นเครื่องหมายยืนยันการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ดี พร้อมร่วมกันส่งมอบคุณค่าให้แก่ผู้บริโภคและยกระดับอุตสาหกรรมเพื่อความยั่งยืนไปด้วยกัน
 

Prepack ได้รับการรับรอง RecyClass (Class A) สำหรับบรรจุภัณฑ์ที่ทำจากพลาสติกชนิดเดียว (Mono-material)

Prepack ใน SCGP ได้รับการรับรองจาก RecyClass (Class A) สำหรับบรรจุภัณฑ์ที่ทำจากพลาสติกชนิดเดียว หรือ Mono-material ในประเภท R1-PE Mono-layer Pouch / PE Flexible – Pouch จาก RecyClass องค์กรรับรองความสามารถในการรีไซเคิลและการตรวจสอบย้อนกลับของวัสดุรีไซเคิลสำหรับบรรจุภัณฑ์พลาสติก ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ของ Prepack ยังผ่านมาตรฐานและกระบวนการทดสอบที่เข้มงวด จึงมั่นใจได้ว่าสินค้าได้รับการออกแบบเพื่อให้สามารถนำไปรีไซเคิลได้ง่าย 

 

การรับรองในครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้า ตลอดจนผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ  ว่าบรรจุภัณฑ์ของ Prepack เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย และสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม 

 

ดูรายชื่อการรับรองจาก RecyClass ได้ที่นี่ https://recyclass.eu/get-certified/recyclability/list-of-certificates/