Vina Kraft Paper Co., Ltd. (VKPC) ใน SCGP คว้ารางวัล Top 100 Sustainable Companies และ รางวัล Gender Equality in the Workplace ประจำปี 2022 ในประเทศเวียดนาม
Vina Kraft Paper Co., Ltd. (VKPC) บริษัทใน SCGP คว้ารางวัล Top 100 Sustainable Companies และ รางวัล Gender Equality in the Workplace ในประเทศเวียดนามประจำปี 2022 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 จากผลการสำรวจของโครงการ Sustainable Companies in Vietnam บริหารโดย Vietnam Business Council for Sustainable Development (VBCSD) โดยจัดทำการมอบรางวัลในช่วงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
VKPC มุ่งมั่นในการการส่งมอบนวัตกรรมสินค้าที่มีคุณภาพให้กับลูกค้า โดยมุ่งเน้นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ซึ่งพนักงานทุกคน คือแรงขับเคลื่อนที่สำคัญ ภายใต้วิสัยทัศน์ “leaving no one behind” ปรับปรุงความเท่าเทียมทางเพศในที่ทำงานมีส่วนสำคัญต่อคุณภาพแรงงาน ด้วยเหตุนี้ VKPC จึงได้รับการยกย่องให้เป็นธุรกิจที่มีความเท่าเทียมทางเพศในที่ทำงานเป็นเวลาสองปีติดต่อกัน และดึงดูดผู้มีความสามารถเข้ามาร่วมงาน อีกทั้งยังมุ่งเน้นการเคารพสิทธิเด็กที่เชื่อว่าจะช่วยสร้างชุมชนที่เข้มแข็ง สร้างอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับทั้งองค์กร และผู้มีส่วนได้เสียไปพร้อมกัน
SCGP ขยายการลงทุนในธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบอ่อนตัวคุณภาพสูงในประเทศไทย หนุนโซลูชันบรรจุภัณฑ์ครบวงจร รับดีมานด์โตต่อเนื่อง
SCGP เดินหน้าขยายธุรกิจโซลูชันบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและความนิยมใช้บรรจุภัณฑ์ที่เน้นความสะดวก ปิดดีลขยายการลงทุนใหม่ เข้าซื้อทรัพย์สินธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบอ่อนตัว (Flexible Packaging) จากบริษัทไซเบอร์พริ้นท์กรุ๊ป จำกัด (Cyber) ดันกำลังการผลิตเพิ่ม ช่วยขยายเครือข่ายลูกค้า เพิ่มศักยภาพการจัดการวัตถุดิบ เสริมขีดความสามารถของบริษัทในการนำเสนอโซลูชันด้านการผลิตบรรจุภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง
นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP เปิดเผยว่า SCGP ได้ขยายการลงทุนผ่านการเข้าซื้อทรัพย์สินในธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบอ่อนตัว (Flexible Packaging) จากบริษัทไซเบอร์พริ้นท์กรุ๊ป จำกัด (Cyber) ซึ่งเป็นผู้ผลิตสิ่งพิมพ์และจำหน่ายบรรจุภัณฑ์ในประเทศไทย ด้วยงบลงทุน 450 ล้านบาท ประกอบด้วย เงินลงทุนในสินทรัพย์ ได้แก่ เครื่องจักรและอุปกรณ์ ที่ดิน อาคารสำนักงาน คลังสินค้า และสินค้าคงคลัง รวมถึงงบประมาณลงทุนสำหรับการขยายกำลังการผลิตในอนาคตและเงินทุนหมุนเวียนที่เกี่ยวข้อง การลงทุนครั้งนี้เป็นการซื้อทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบอ่อนตัวเท่านั้น และ Cyber ยังคงดำเนินธุรกิจส่วนอื่น ๆ ต่อไป โดยการขยายธุรกิจนี้ได้ดำเนินธุรกรรมผ่านบริษัทพรีแพค ประเทศไทย จำกัด (Prepack) ใน SCGP ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์แบบอ่อนตัวคุณภาพสูงและมีการนำเสนอโซลูชันด้านการผลิตบรรจุภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานสากล ผ่านการรับรอง ISCC Plus โดย International Sustainability and Carbon Certification สำหรับการเป็นองค์กรที่มีการจัดการคาร์บอนและการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั้งห่วงโซ่อุปทาน ปัจจุบัน Prepack มีฐานการผลิต 3 แห่งในประเทศไทย โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมสินสาคร จังหวัดสมุทรสาคร
การลงทุนครั้งนี้จะส่งผลให้ธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบอ่อนตัวของ SCGP มีกำลังการผลิตในประเทศไทยรวมเพิ่มขึ้นอีกประมาณร้อยละ 12 โดยครึ่งหนึ่งของกำลังการผลิตส่วนเพิ่มดังกล่าวเป็นกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์แบบอ่อนตัวในปัจจุบันของ Cyber ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมสินสาครใกล้กับที่ตั้งโรงงานของ Prepack และจะรวมเข้าเป็นกำลังการผลิตรวมของ Prepack ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2566 ส่วนกำลังการผลิตส่วนเพิ่มที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งจะมาจากการขยายกำลังการผลิตในบริเวณพื้นที่เดียวกันตามที่กล่าวไว้ข้างต้น โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 ซึ่งจะทำให้ SCGP สามารถขยายฐานลูกค้าใหม่ที่หลากหลายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะลูกค้าบรรจุภัณฑ์ในกลุ่มอาหารสัตว์และกลุ่มอาหารเสริมที่เป็นกลุ่มลูกค้าเดิมของ Cyber และยังส่งผลดีต่อการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารต้นทุนที่เกิดจาการการรวมปริมาณการสั่งซื้อวัตถุดิบ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของบริษัทในการนำเสนอโซลูชันด้านการผลิตบรรจุภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง
SCGP รับรางวัล BETAGRO Supplier Excellence Awards เสริมสร้างพันธมิตรทางธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน
บริษัทกลุ่มสยามบรรจุภัณฑ์ จำกัด ใน SCGP โดยคุณเอกราช นิโรจน์ Enterprise Marketing Director – SCGP เป็นตัวแทนรับมอบรางวัล BETAGRO Supplier Excellence Awards 2022 จากคุณวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) โดยจัดขึ้นเป็นครั้งแรก ภายใต้แนวคิด Growing Together with Sustainability เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ณ โรงแรมรามา การ์เด้นส์ กรุงเทพฯ
รางวัลดังกล่าว เป็นรางวัลเพื่อประกาศเกียรติคุณสำหรับคู่ค้าที่มีผลการดำเนินงานยอดเยี่ยมในปี 2564 ทั้งในด้านคุณภาพสินค้า ราคา การจัดส่ง การบริการและนวัตกรรม ตลอดจนการเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้างศักยภาพในฐานะบริษัทคู่ค้าที่พร้อมจะเติบโตไปด้วยกันอย่างมั่นคงและยั่งยืน
รางวัลนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและยอมรับจากลูกค้า อันเป็นผลมาจากความมุ่งมั่นของ SCGP ในการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าเป็นหัวใจสำคัญ พร้อมพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมกันสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าและผู้บริโภคไปด้วยกัน
Duy Tan ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISCC PLUS การันตีมาตรฐานความยั่งยืนชั้นนำระดับโลก
Duy Tan ใน SCGP ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับโลก ISCC PLUS จาก International Sustainability and Carbon Certification (ISCC) เพื่อรับรององค์กรที่มีการจัดการคาร์บอนและการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั้งห่วงโซ่อุปทาน โดย Duy Tan ถือเป็นผู้ประกอบการบรรจุภัณฑ์พลาสติกคงรูปและของใช้ในครัวเรือนรายแรกในประเทศเวียดนามและเป็นธุรกิจในเครือ SCGP รายได้ 3 ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานความยั่งยืนชั้นนำระดับโลกดังกล่าว สะท้อนวิสัยทัศน์ของบริษัทที่มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน
Duy Tan คือผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกคงรูปและของใช้ในครัวเรือนที่สามารถใช้เม็ดพลาสติก PCR (Post-Consumer Recycled Resin) จากผู้ผลิตที่ได้รับการรับรองจาก ISCC เป็นวัตถุดิบ ซึ่งใช้ระบบการจัดการและควบคุมการผลิตภายใน ตั้งแต่กระบวนการจัดซื้อ ตรวจรับ ผลิต จนถึงขั้นตอนการขายและส่งมอบ เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่าได้รับสินค้าที่มีพลาสติกหมุนเวียนที่มีคุณภาพ
การรับรองมาตรฐานนี้ จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคในสินค้าของ Duy Tan พร้อมทั้งยกระดับคุณภาพเพื่อสนองตอบความต้องการด้านบรรจุภัณฑ์ให้แก่กลุ่มลูกค้าที่ให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี
เอสซีจี จับมือ กกร. รีไซเคิลกระดาษเหลือใช้จาก APEC CEO Summit 2022 สู่ชั้นหนังสือรักษ์โลกเพื่อเยาวชน
นายดนัยเดช เกตุสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงิน บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) นำโดยนายชูเดช เตชะไพบูลย์ กรรมการเหรัญญิก หอการค้าไทย ในฐานะประธานคณะทำงานด้าน Sponsor Services งาน APEC CEO Summit 2022 และนายวิบูลย์ สุภัครพงษ์กุล รองประธานคณะกรรมการส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ร่วมส่งมอบชั้นหนังสือกระดาษรีไซเคิล โครงการ Recycling For Kids พร้อมทั้งชุดหนังสือภาพนิทานเสริมทักษะสำหรับเด็กเล็ก ส่งเสริมการเรียนรู้ โดยมูลนิธิเอสซีจี แก่โรงเรียนราชบพิธ และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบริเวณรอบชุมชน โดยมีนางวาสนา ทองน้อย รองผู้อำนวยการสถานศึกษา นางสาววรรณฤดี รุกขวัฒนกุล ครู วิทยฐานะครูชำนาญการ และตัวแทนนักเรียนจากโรงเรียนราชบพิธ เป็นตัวแทนรับมอบ ซึ่งโครงการดังกล่าว ได้รวบรวมกระดาษเหลือใช้และวัสดุตกแต่งหลังจบการประชุมสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปค (APEC Business Advisory Council–ABAC) และการประชุม APEC CEO Summit 2022 มารีไซเคิลเป็นชั้นวางหนังสือรักษ์โลก ที่สวยงาม แข็งแรง ด้วยโซลูชันจาก SCGP Recycle ที่ส่งเสริมการแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง และการจัดเก็บที่ได้มาตรฐาน เพื่อส่งกลับสู่กระบวนการรีไซเคิล ส่งเสริมการจัดการประชุมที่เป็นมิตรสิ่งแวดล้อม (Green Meeting) ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ลดขยะ และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก สอดคล้องกับแนวทาง BCG (Bio-Circular-Green Economy)
นายดนัยเดช เกตุสุวรรณ กล่าวว่า “SCGP มี ESG เป็นกรอบแนวคิดในการดำเนินธุรกิจมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน มุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อผู้บริโภค ควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาสังคม บนพื้นฐานของความโปร่งใสตรวจสอบได้ มีการกำหนดเป้าหมายและกลยุทธ์เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593″
“เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก APEC 2022 Thailand ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) ด้วยการจัดประชุมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Meeting) โดย SCG และ SCGP ได้ร่วมสนับสนุนกระดาษรีไซเคิลมาเป็นวัสดุตกแต่งสถานที่ประชุม และพร้อมสนับสนุนให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน ด้วยการส่งเสริมพฤติกรรมการคัดแยกวัสดุเหลือใช้ตั้งแต่ต้นทาง พร้อมกับนำเสนอโซลูชันจาก SCGP Recycle เพื่อจัดเก็บกล่องกระดาษเหลือใช้ นำมารีไซเคิลเป็นวัตถุดิบในการผลิตชั้นหนังสือกระดาษที่แข็งแรงและสวยงาม พร้อมส่งมอบให้กับเด็ก ๆ นำไปใช้ประโยชน์ใหม่”
HOLIS by SCGP IM-MU Cap ได้รับรางวัลสุดยอดแบรนด์แห่งปี จาก “ชีวจิต Awards 2022” การันตีสินค้านวัตกรรมคุณภาพที่ตอบโจทย์ผู้รักสุขภาพ
HOLIS by SCGP IM-MU Cap ได้รับรางวัลสุดยอดแบรนด์แห่งปี จาก “ชีวจิต Awards 2022” สาขา Innovation Reader’s Vote แห่งปี 2022 จัดโดย นิตยสารชีวจิต ซึ่งมอบให้แก่ผลิตภัณฑ์ชั้นนำทั้งของไทยและต่างประเทศ ที่มีนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำสมัย ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่รักสุขภาพ รวมถึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดย นายเอกราช นิโรจน์ Enterprise Marketing Director, SCGP เป็นตัวแทนรับมอบรางวัล จาก ดร. สรัญ ฐิตะวสันต์ Deputy Managing Director บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) เมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ โรงแรม U Sathorn Bangkok Hotel
รางวัลนี้ ได้รับคัดเลือกจากคะแนนโหวตของผู้อ่านและผู้ติดตามนิตยสารชีวจิต นับเป็นความภาคภูมิใจและสะท้อนให้เห็นการมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมสินค้าอย่างต่อเนื่องและความร่วมแรงร่วมในของทีมงานและพนักงานเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคจนเป็นที่ยอมรับ สามารถติดตามข่าวสารและโปรโมชันจาก HOLIS by SCGP ได้ที่เว็บไซต์ www.holisbyscgp.com เฟซบุ๊กแฟนเพจ HOLIS by SCGP และ LINE @SCGPHealthcare
“HOLIS by SCGP IM-MU Cap ผสาน 3 คุณค่าจากธรรมชาติ ให้ทุกวันที่มี ดีกว่าที่เคย”
ALMIND by SCGP ได้รับรางวัลสุดยอดผลิตภัณฑ์ดาวรุ่ง จาก Amarin Baby& Kids Awards 2022 ย้ำความมั่นใจและปลอดภัยต่อลูกน้อย
ALMIND by SCGP ได้รับรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2022 ประเภท Rising Star สาขาผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อสำหรับครอบครัว (Best Disinfectant Cleaner for Family) จากผลิตภัณฑ์สเปรย์แอลกอฮอล์ล้างมือ โดย นางสาวนิรมล เพรียวประเสริฐ Retail Channels Management Department Manager เป็นตัวแทนรับมอบรางวัล เมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ Siloo’et House บางใหญ่
รางวัลสุดยอดผลิตภัณฑ์ดาวรุ่ง หรือ Rising Star เป็นรางวัลที่ผ่านการคัดสรรจากทีมบรรณาธิการ มอบให้กับแบรนด์สินค้าดาวเด่น น่าชอป น่าใช้ มีคุณภาพดีเหมาะกับลูกน้อย จากงาน Amarin Baby and Kids Fair 2022 เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับคุณแม่ยุคใหม่ในการตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ นับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจและสะท้อนให้เห็นการมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมสินค้าอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคจนเป็นที่ยอมรับ สามารถติดตามข่าวสารและโปรโมชันดี ๆ จาก ALMIND by SCGP ได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ ALMIND by SCGP และ Line @SCGPHealthcare
“ALMIND by SCGP, ส่งต่อความสะอาดอ่อนโยน ด้วยความใส่ใจ”
SCGP เตรียมขายหุ้นกู้ อายุ 4 ปี ดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 3.50 ต่อปี ต่อผู้ลงทุนทั่วไป ระหว่างวันที่ 22 – 24 และ 28 – 30 พฤศจิกายนนี้
SCGP เตรียมออกหุ้นกู้ อายุ 4 ปีอัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 3.50 ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ด้วยอันดับความน่าเชื่อถือหุ้นกู้ A+(tha) จากฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) สะท้อนฐานะการเงินและสถานะธุรกิจที่แข็งแกร่ง เปิดจองซื้อสำหรับผู้ถือหุ้นกู้ปัจจุบันของบริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) (ทุกชุด) และ/หรือ ผู้ถือหุ้นกู้บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (ทุกชุด) และ/หรือ ผู้ถือหุ้นกู้บริษัทเอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) (ทุกชุด) ในวันที่ 22 – 24 พฤศจิกายนนี้ และผู้ลงทุนทั่วไปที่ไม่ใช่ผู้ลงทุนสถาบัน สามารถจองซื้อได้ในวันที่ 28 – 30 พฤศจิกายนนี้ ที่ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์
นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 3.50 ต่อปี มูลค่าเสนอขายไม่เกิน 4,000 ล้านบาท และมีหุ้นกู้สำรองเพื่อการเสนอขายเพิ่มเติมมูลค่าไม่เกิน 1,000 ล้านบาท กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน โดยหุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อที่ระดับ A+(tha) จากบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2565 สะท้อนความแข็งแกร่งและการเติบโตอย่างต่อเนื่องของ SCGP
SCGP ออกหุ้นกู้ครั้งนี้โดยมีวัตถุประสงค์ในการใช้เงินดังกล่าวเพื่อชำระคืนเงินกู้ เพื่อการลงทุนของบริษัท และ/หรือ เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจทั่วไป ทั้งนี้ บริษัทมุ่งขยายการลงทุนในธุรกิจบรรจุภัณฑ์อย่างต่อเนื่องและสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ตลอดจนสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมและโซลูชันด้านบรรจุภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการและเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตแก่ผู้บริโภค
การเสนอขายหุ้นกู้ดังกล่าวจะแบ่งเป็น 2 ช่วง โดยช่วงที่ 1 ระหว่างวันที่ 22 – 24 พฤศจิกายน จะให้สิทธิจองซื้อกับผู้ลงทุนทั่วไปที่ไม่ใช่ผู้ลงทุนสถาบัน ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นกู้ปัจจุบันของบริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) (ทุกชุด) และ/หรือ ผู้ถือหุ้นกู้บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (ทุกชุด) และ/หรือ ผู้ถือหุ้นกู้บริษัทเอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) (ทุกชุด) ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวน และช่วงที่ 2 ระหว่างวันที่ 28 – 30 พฤศจิกายน จะเสนอขายแก่ผู้ลงทุนทั่วไปที่ไม่ใช่ผู้ลงทุนสถาบัน โดยทั้ง 2 ช่วงสามารถจองซื้อขั้นต่ำ 1,000,000 บาท ทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท
ผู้ลงทุนที่สนใจ สามารถจองซื้อหุ้นกู้ SCGP ได้ที่ผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ทั้ง 5 แห่ง คือ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ทั้งช่องทางออนไลน์และที่สาขาของธนาคาร โดยดาวน์โหลดใบจองซื้อได้ที่ https://investor.scgpackaging.com/th/debenture ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2565
สุนทร ยงค์วิบูลศิริ : ทุกการเปลี่ยนแปลงคือโอกาสในการเรียนรู้
ความยั่งยืนคือ เป้าหมายและแนวทางในการดำเนินธุรกิจที่ SCGP ให้ความสำคัญมาโดยตลอด พี่บี้ – สุนทร ยงค์วิบูลศิริ ESG and Sustainability Director, SCGP ได้เข้ามารับหน้าที่บริหารงานในเรื่องดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563 ทำให้ตัวเขาต้องเปลี่ยนวิธีการทำงานไปอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการรับมือกับความท้าทายของการทำงานเพื่อบรรลุภารกิจสำคัญขององค์กร วิธีการจัดการกับความเปลี่ยนแปลง เชื่อว่าประสบการณ์ต่างๆ จะสร้างแรงบันดาลใจให้เพื่อน ๆ SCGP ได้อย่างแน่นอน
ปรับตัว เรียนรู้ใหม่ มองให้เป็นเรื่องสนุก
“พี่จบวิศวกรรมศาสตร์ สาขาเคมี เริ่มต้นงานในตำแหน่งวิศวกรฝ่ายผลิตที่บริษัทเยื่อกระดาษสยาม จำกัด (มหาชน) โรงงานบ้านโป่ง ในปี 2533 พอทำงานได้ระยะหนึ่ง ก็ย้ายไปเป็นวิศวกรโครงการใหม่ที่โรงงานวังศาลา ต่อมาได้รับมอบหมายให้ดูแลส่วนผลิตในโรงเยื่อของบริษัทสยามเซลลูโลส จำกัด ในตำแหน่งผู้จัดการส่วนผลิต หลังจากนั้นย้ายไปทำด้านวิศวกรรม โครงการของบริษัทผลิตภัณฑ์กระดาษไทย จำกัด ตามด้วยส่วนผลิตที่บริษัทฟินิคซ พัลพ แอนด์ เพเพอร์ จำกัด (มหาชน) เกี่ยวกับเยื่อกระดาษที่จังหวัด ขอนแก่นจนถึงปี 2550 ก่อนจะย้ายกลับมาเป็นผู้จัดการฝ่ายผลิต ดูแลโรงเยื่อ 2 แห่ง ทั้งที่โรงงานบ้านโป่งและวังศาลา กระทั่งปี 2563 ได้รับโอกาสมาดูแลเรื่อง ESG และ Sustainability ของ SCGP
“การเปลี่ยนจากสายงานผลิตในโรงงาน มาทำในฝั่ง corporate ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของพี่เลย เพราะต้องดูเรื่องการกำกับดูแล การวางนโยบายและกลยุทธ์ โดยรับแนวทางจากพี่ ๆ ฝ่ายจัดการและคณะกรรมการ ESG เพื่อมากำหนดกรอบการทำงานให้หน่วยงานต่าง ๆ ช่วยกันขับเคลื่อนแล้วติดตามรวบรวม Performance ในภาพรวมเพื่อรายงานตามกรอบมาตรฐานและเปิดเผยต่อสาธารณะ ถือว่าเป็นการทำงานในภาพรวมขององค์กรมากขึ้น มีเรื่องที่ต้องเรียนรู้มากขึ้น ทั้งเรื่องกฎหมาย ภาครัฐ การจัดการ การมีส่วนร่วมและการบริหารผู้มีส่วนได้เสีย
“เรื่อง ESG และ Sustainability มีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับองค์กรภายนอกต้องปรับตัวค่อนข้างมาก เพราะเราไม่เคยทำมาก่อน แต่ประสบการณ์จากโรงงานและวิศวกรรมถือว่าเป็นประโยชน์ในการเชื่อมโยงแนวคิดต่าง ๆพี่คิดว่าการเปลี่ยนแปลงการทำงานถือเป็นการปรับตัวเพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่ให้เราออกนอก Comfort Zone อาจจะลำบากในช่วงแรกบ้าง แต่เมื่อปรับตัวได้ก็รู้สึกสนุกกับงานที่ได้ทำ”
ESG ดีต่อโลก ดีต่อคน
ESG ถือเป็นประเด็นสำคัญในระดับสากล ซึ่ง SCGP ให้ความสนใจในเรื่องดังกล่าวมาโดยตลอด ทั้งในส่วนการใช้ทรัพยากรวัตถุดิบหลักอย่างไม้ยูคาลิปตัสที่มีการปลูกขึ้นมาทดแทนอย่างต่อเนื่อง หรือการใช้วัสดุรีไซเคิลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมถึง 97% ในการผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์ รวมถึงการหมุนเวียนบรรจุภัณฑ์กลับมาใช้ใหม่อย่างคุ้มค่าตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน เป็นต้น
“เนื่องจากในกระบวนการผลิตยังมีการใช้ทรัพยากรที่เราต้องบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด เราจึงหาทางลดการใช้ทรัพยากรลง ไม่ว่าจะเป็นเชื้อเพลิง หรือพลังงาน การใช้น้ำ และการลดของเสีย การนำนโยบายเรื่องความยั่งยืนหรือ ESG ไปสู่การปฏิบัติของแต่ละหน่วยงาน ต้องมีการวางเป้าหมายและตัววัดที่ชัดเจน เช่น หากจะลดก๊ซเรือนกระจก ต้องดูว่าตัววัดคืออะไร เราปล่อยก๊าซเท่าไร จะลดลงเท่าไรและเมื่อไร จากนั้นดูผลว่าเป็นอย่างไรเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่ และควรจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร
“การกำหนดสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่การกำหนดแบบบนลงล่างอย่างเดียว เราต้องเชื่อมโยงกับผู้ปฏิบัติจริงว่ามีความเป็นไปได้ขนาดไหน ความท้าทายในเรื่องนี้คือการสื่อสารว่าสิ่งที่ทุก ๆ โรงงานทำนั้นส่งผลต่อองค์กร สังคม และโลกของเรา ซึ่งที่ผ่านมาพี่ ๆ ระดับจัดการ ช่วยกันสื่อสารในทุกเวทีที่มีโอกาส ทำให้ทุกคนเห็นทิศทางที่องค์กรให้ความสำคัญ เราได้รับการประเมินเรื่อง ESG Rating ในเกณฑ์ดี โดยเฉพาะ S&P Global Corporate Sustainability Assessment ระดับ Silver ตั้งแต่ปีแรกที่เข้าร่วม เป็นสิ่งที่น่าภูมิใจ และชัดเจนว่านี่คือผลงานของพวกเราทุกคน
“นอกจากนี้ สิ่งที่พวกเราทำยังส่งผลถึงผลประกอบการ เพราะเรื่อง ESG ทำให้เกิดความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน ตอบโจทย์เรื่องการเติบโตอย่างมีคุณภาพและเสริมสร้างโอกาสทางธุรกิจมากขึ้น เช่น ธุรกิจ Recycling เมื่อมีการหมุนเวียนวัสดุกลับมาใช้ใหม่ จะช่วยต่อยอดทางธุรกิจของ SCGP ให้ครบวงจรมากยิ่งขึ้น ฉะนั้นการให้ความสำคัญกับ ESG ก่อให้เกิดผลดีต่อคนธุรกิจ สังคม และโลกไปพร้อมกัน”
เปิดใจ เรียนรู้ สร้างโอกาส
“พี่เชื่อว่า การทำงานที่ดีไม่ใช่การทำงานเยอะ ๆ แต่เป็นการทำงานให้มีประสิทธิผล ผสมผสานการทำงานและชีวิตส่วนตัวได้อย่างลงตัว อีกเรื่องคือในช่วงที่เปลี่ยนมาดูแลงานระดับจัดการ พี่เรียนรู้ว่าการบริหารทีมไม่ใช่เรื่องง่าย จากที่เราเรียนมา ในสายวิศวะฯ มีโซลูชันในการทำงานชัดเจนหากเกิดปัญหาเรารู้วิธีแก้ไขที่ถูกต้อง ก็จะใช้วิธีนั้นได้ตลอด แต่การบริหารทีมหรือบริหารคนไม่มีคำตอบที่ชัดเจนแบบนั้น ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมตามสถานการณ์
“ในแง่ของการบริหาร พี่จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน อย่างแรกคือการบริหารตัวเอง เปิดใจ รับฟังคนอื่นอยู่เสมอ และมักจะมองหาแรงบันดาลใจให้ตัวเองเมื่อเจออุปสรรค พี่จะคิดว่า ถ้าเราพยายาม อดทนทำงานจนสำเร็จ จะได้ความภาคภูมิใจเป็นรางวัล ขณะเดียวกัน เมื่องานเสร็จ เราจะได้มีโอกาสไปทำเรื่องส่วนตัวที่สนใจ สามารถผสมผสานการทำงานและชีวิตส่วนตัวได้อย่างลงตัว
“ส่วนเรื่องบริหารทีม พี่จะเน้นการทำงานเป็นทีม ทำให้ทุกคนในทีมมองเป้าหมายใหญ่ขององค์กรร่วมกันมากกว่าภาพของตัวเอง ทุกคนต้องเข้าใจว่าเราเป็นหน่วยงานหนึ่งขององค์กร และไม่ควรขีดกรอบตัวเอง บางครั้งเราอาจต้องทำงานมากกว่าที่ได้รับมอบหมาย เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
“สำหรับน้อง ๆ พี่อยากให้เน้นเรื่องการเรียนรู้เป็นสำคัญ ยิ่งเราทำงานมากยิ่งต้องเรียนรู้ให้มากขึ้น รวมถึงหาเวลาว่างในการอ่านหนังสือ ข่าวสาร หรือบทความ เพื่อเพิ่มข้อมูลความรู้ หาโอกาสต่าง ๆ ต่อไปได้
“สุดท้าย อย่ากังวลเวลาเกิดการเปลี่ยนแปลง ทำงานที่รับผิดชอบให้ดีที่สุดที่สำคัญไม่ว่าจะทำอะไร ให้มองเรื่องแนวคิดและหลักการที่ถูกต้อง ถ้าสองอย่างนี้ถูกต้อง ตรรกะต่าง ๆ จะตามมาเอง และเราจะรู้ว่าควรจะทำอะไรต่อไป” พี่บี้ฝากข้อคิดดี ๆ ทิ้งท้าย