SCGP ชูศักยภาพด้านการออกแบบ คว้า 3 รางวัลคุณภาพ ThaiStar Packaging Awards 2023
บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP รับรางวัลด้านการออกแบบบรรจุภัณฑ์ ThaiStar Packaging Awards 2023 รวม 3 รางวัล ภายใต้หัวข้อ “บรรจุภัณฑ์สร้างสรรค์สังคมดี (Good Together)” ซึ่งจัดโดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จากผลงาน Singha Park Gift Set ออกแบบโดย สุริยา พิมพ์โคตร และธาวิตา รัตนัย ที่สื่อสารให้เห็นถึงความสวยงามของสิ่งแวดล้อมบนบรรจุภัณฑ์ด้วยกระดาษลูกฟูกที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติและพิมพ์ด้วยหมึกที่ผลิตจากถั่วเหลือง ผลงาน กล่องส้มตรุษจีน ลายผ้ามงคล ออกแบบโดย วันชนะ ศรีไตรรัตนะ และกนกนาถ สถาวรานนท์ ที่ได้แรงบันดาลใจจาก “ชุดกี่เพ้า” สะท้อนคติความเชื่อของชาวจีน โดยมีลวดลาย “ดอกโบตั๋น” สื่อถึงโชคลาภ ความมั่งคั่งร่ำรวย และ “นกกระเรียน” หมายถึงสุขภาพที่แข็งแรง อายุยืน และผลงาน ชุดปิกนิก อิ่มท้อง อุ่นใจ ใช้เฟสท์ ออกแบบโดย ศุภวรรณ ศุภผล ที่ได้แนวคิดจากการนั่งปิกนิก นำมาถ่ายทอดผ่านลวดลายบนบรรจุภัณฑ์พร้อมหูหิ้วที่ขึ้นรูปจากเส้นเทปกระดาษจากวัสดุเหลือใช้ในกระบวนการผลิตของ SCGP ที่สอดคล้องกับแนวคิด ESG ซึ่งผลงานเหล่านี้สามารถออกแบบบรรจุภัณฑ์ได้แตกต่างและเพิ่มความโดดเด่นแก่สินค้า อีกทั้งยังตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภคและสามารถสร้างสรรค์สังคมและสิ่งแวดล้อม ตามแนวทางของ SCGP ที่มุ่งเน้นการออกแบบและพัฒนาบรรจุภัณฑ์เพื่อส่งมอบความครบวงจรให้แก่ลูกค้า สร้างสังคมที่น่าอยู่และโลกที่ยั่งยืน
โครงการพัฒนาวิสาหกิจชุมชน SCGP : สร้างมูลค่าเพิ่มให้เส้นเทปกระดาษ (Paper Band)
SCGP ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน สร้างการเติบโตควบคู่กับการพัฒนาสังคมและดูแลสิ่งแวดล้อม ตอบสนองความต้องการของลูกค้าและผู้บริโภคพร้อมกับยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนและชุมชนให้ดียิ่งขึ้น โดยคำนึงถึงการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และขยายแนวคิดนี้ไปสู่การดำเนินโครงการพัฒนาชุมชน ผ่านการส่งเสริมความรู้และสร้างแรงบันดาลใจจากความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ สร้างความเข้าใจและส่งเสริมให้ชุมชนมีส่วนร่วมวางแผนโครงการพัฒนาอาชีพของตนเอง โดยการนำเส้นเทปกระดาษหรือ Paper Band ที่เป็นวัสดุเหลือใช้จากกระบวนการผลิตของ SCGP มาเป็นวัตถุดิบในการทำหัตถกรรมจักสานสร้างรายได้ให้ชุมชน จากเส้นเทปกระดาษที่ขายได้เพียงราคากิโลกรัมละ 2-3 บาท เมื่อเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ร่วมกับฝีมือจักสานของชุมชน ก็สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างมาก
SCGP เชื่อว่าการพัฒนาอาชีพ เป็นการพัฒนาศักยภาพของชุมชนและส่งเสริมให้เกิดการหมุนเวียนของเศรษฐกิจชุมชน ซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญอันจะนำไปสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ จึงได้เริ่มโครงการโดยศึกษาร่วมกันกับชุมชน ครู วิทยากร จากมหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี เพื่อเพิ่มมูลค่าเส้นเทปกระดาษที่มีลักษณะเหนียว คงทน ไม่ขึ้นรา ให้เป็นผลิตภัณฑ์จักสานด้วยการออกแบบผลิตภัณฑ์ และนำความรู้นั้นมาอบรมอาชีพให้กับชุมชนรอบโรงงาน เพื่อสานเป็นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เช่น ตะกร้า ถาด ที่รองแก้ว ที่ดึงนิ้วล็อก การบูรหอม กระเป๋าถือ กระเป๋าสะพาย ถุงตาข่าย กระเช้าดอกไม้ และกล่องของขวัญ เพิ่มศักยภาพให้กับชุมชนรอบโรงงาน ใช้เวลาว่างอย่างมีประโยชน์ และเป็นอาชีพสร้างรายได้ รวมทั้งต่อยอดสู่การสร้างศูนย์เรียนรู้ในชุมชน เพื่อการถ่ายทอดองค์ความรู้ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้คงอยู่และมีความยั่งยืน โดยริเริ่มในจังหวัดกาญจนบุรี และต่อยอดองค์ความรู้ ขยายผลต่อไปในชุมชนรอบโรงงานอื่น ๆ ส่งเสริมให้ชุมชนมีการจัดตั้งรวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชน สร้างอาชีพและรายได้ให้แก่ชุมชน ในจังหวัดราชบุรี และปราจีนบุรีด้วย โดย SCGP มีการต่อยอดหลักสูตรเกี่ยวกับการออกแบบ พัฒนาอัตลักษณ์ชุมชน การย้อมสี การตลาด และการสร้างแบรนด์สินค้า ให้กับชุมชน เพื่อสร้างความแตกต่าง และความสามารถในการแข่งขัน ซึ่ง “วิสาหกิจชุมชนผลิตภัณฑ์เกษตรกรบ้านอ้ออีเขียว” จังหวัดราชบุรี และ”ชุมชนหัตถกรรมจักสานบ้านท่าตะคร้อ” จังหวัดกาญจนบุรี ชุมชนรอบโรงงานที่ SCGP ให้การสนับสนุน ได้รับรางวัลรองชนะเลิศในการเข้าประกวด แบบจำลองธุรกิจ “พลอยได้..พาสุข” ส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์จากวัสดุเหลือใช้อุตสาหกรรม จัดโดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม สะท้อนถึงความสำเร็จของ SCGP ที่พัฒนาชุมชนให้มีศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์ สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
รายชื่อวิสาหกิจชุมชนหัตถกรรมจักสานเส้นเทปกระดาษ (Paper Band)
- วิสาหกิจชุมชนกลุ่มหัตถกรรมจักสานบ้านท่าตะคร้อ
เลขที่ 59 หมู่ 1 ตำบลท่าตะคร้อ อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี รหัสไปรษณีย์ 71130
ติดต่อ: วิสาหกิจชุมชนฯ เบอร์โทรศัพท์: 098-914-9245 087-033-9616 และ 097-958-6592
Facebook: https://www.facebook.com/profile.php?id=100057176269943&mibextid=LQQJ4d
- วิสาหกิจชุมชนผลิตภัณฑ์เกษตรกรบ้านอ้ออีเขียว
เลขที่ 90 หมู่ 2 ตำบลกรับใหญ่ อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี รหัสไปรษณีย์ 70190
ติดต่อ: คุณลอง เบอร์โทรศัพท์: 081-736-1130 และ 092-495-6454
Facebook: https://www.facebook.com/profile.php?id=100064166257653&mibextid=ZbWKwL
- กลุ่มอาชีพบ้านหนองจรเข้
เลขที่ 62 หมู่ 9 ตำบลบ่อทอง อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี รหัสไปรษณีย์ 25110
ติดต่อ: คุณสุจีน (กิ่น) เบอร์โทรศัพท์: 063-103-8739
Line: https://line.me/ti/p/Wdc08qEUDF
- วิสาหกิจชุมชนเกษตรพอเพียงจักสานและอาหารแปรรูปบ้านกุดปลาหวี
เลขที่ 42/2 หมู่ 4 ตำบลบ่อทอง อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี รหัสไปรษณีย์ 25110
ติดต่อ: คุณบัวแพง เบอร์โทรศัพท์: 087-618-8298
ALMIND by SCGP เปิดตัว ‘Ultramild Foaming Hand Wash’ โฟมล้างมือเปลี่ยนสีได้สูตรอ่อนโยน
บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP ต่อยอดความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “Ultramild Foaming Hand Wash’ ภายใต้แบรนด์ ALMIND by SCGP โฟมล้างมือสูตรอ่อนโยน ตัวช่วยเพื่อสุขอนามัยที่ดี เหมาะกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายและเด็กที่มีผิวบอบบาง สามารถลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียและสิ่งสกปรกที่อาจเป็นสาเหตุในการก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ อาทิ อาหารเป็นพิษ, ท้องร่วง, ลำไส้อักเสบ, การติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร ระบบทางเดินหายใจ และ การติดเชื้อบริเวณผิวหนัง เนื้อโฟมเปลี่ยนสีได้เมื่อทำความสะอาดครบ 30 วินาที ผ่านการทดสอบการแพ้และระคายเคือง (Hypoallergenic Tested)โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังจากสถาบัน Dermscan Asia ปราศจากสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง (สบู่, สาร SLS, Paraben และแอลกอฮอลล์) บำรุงผิวให้ชุ่มชื้นด้วย AQUACELLA® นวัตกรรมพิเศษจาก SCGP จึงสะอาด อ่อนโยน ไม่แห้งตึง พร้อมผสานคุณค่าธรรมชาติจาก Organic Jojoba Oil และ Organic Camellia Seed Oil ที่ได้รับการรับรองจาก ECOCERT มีกลิ่นหอม สดชื่น ลดกลิ่นคาวและกลิ่นไม่พึงประสงค์ สินค้าวางจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ที่ Facebook: ALMIND by SCGP, Doozy Online, ร้าน SCGP Healthcare (Shopee, Lazada, Line My Shop, NocNoc และ 24 Shopping) และ Konvy อีกทั้งยังมีช่องทางออฟไลน์ที่ SCG Boutique และ Chivit-D ทุกสาขา
“ไทย อันเป่า ผลิตภัณฑ์กระดาษ” ผู้ผลิตถ้วยกระดาษ 2 ชั้นสำหรับบรรจุบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรายแรกในประเทศไทย
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนับเป็นอีกหนึ่งเมนูคลายหิวจานด่วนที่เดินทางมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษ เราได้เห็นพัฒนาการทั้งทางด้านรสชาติที่แต่ละแบรนด์สร้างสรรค์ ตลอดจนบรรจุภัณฑ์ที่เพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคมีความสะดวกสบายมากขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่แบบซอง มาจนถึงแบบถ้วยที่ถือรับประทานที่ไหนก็ได้ เพียงแค่เปิดฝาเติมน้ำร้อน
ในโอกาสนี้ คุณพจนารถ พะเนียงเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทไทย อันเป่า ผลิตภัณฑ์กระดาษ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตถ้วยกระดาษที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของอุตสาหกรรมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ได้สละเวลาจากงานบริหารมาบอกเล่าถึงจุดเริ่มต้น แนวคิด และการเป็นพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจกับ SCGP
เริ่มต้นจากความร่วมมือ
“บริษัทไทย อันเป่า ผลิตภัณฑ์กระดาษ จำกัด เริ่มดำเนินธุรกิจเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2547 โดยการร่วมทุนกันระหว่างบริษัทไทย เพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบรนด์มาม่า กับบริษัทอันเป่า ประเทศจีน ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์กระดาษสำหรับอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งในขณะนั้น ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์มีแนวคิดที่ต้องการจะเปลี่ยนถ้วยบะหมี่ที่ใช้กับสินค้ากลุ่มมาม่าคัพ โจ๊กคัพ ไปเป็นวัสดุที่ตอบโจทย์เรื่องการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และต้องปลอดภัยต่อผู้บริโภค ซึ่งแต่เดิมนั้นผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเริ่มต้นวางตลาดด้วยการใช้ถ้วยแบบพลาสติก
“หลังจากการร่วมทุน ไทย อันเป่า จึงได้นำเทคโนโลยีการผลิตถ้วยกระดาษเพื่อบรรจุบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบ 2 ชั้น (Double Wall) จากอันเป่า ประเทศจีนมาใช้ ขณะเดียวกันก็นำเอาระบบประกันคุณภาพอาหารจากไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์มาปรับใช้ในกระบวนการผลิตถ้วยกระดาษ นับเป็นผู้ผลิตถ้วยกระดาษสำหรับบรรจุบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรายแรกในประเทศไทยค่ะ”
ผลิตภัณฑ์สัมผัสอาหาร มาตรฐานต้องมาก่อน
“ตัวถ้วยกระดาษที่เราผลิตนั้นทำจากกระดาษซ้อนกัน 2 ชั้น เพื่อป้องกันความร้อน เวลาที่ผู้บริโภคใช้งานจะสามารถถือได้โดยไม่ร้อนมือ โดยกระดาษชั้นในซึ่งเป็นส่วนที่สัมผัสอาหาร จะใช้กระดาษ Cupstock ซึ่งเป็นกระดาษเคลือบด้วยพลาสติก PE ที่ทนความร้อน เหมาะสำหรับใช้บรรจุอาหารโดยเฉพาะ (Food Grade) ส่วนชั้นนอกจะหุ้มด้วยกระดาษ Duplex เพื่อพิมพ์โลโก้ แบรนด์ และรายละเอียดต่าง ๆ ของสินค้าได้อย่างชัดเจน มีสีสันสวยงาม ซึ่งถ้วยกระดาษจะต้องผ่านการทดสอบความแข็งแรง ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เหมาะสำหรับนำมาใช้เป็นบรรจุภัณฑ์อาหาร”
“ไม่เพียงแค่สินค้าคุณภาพที่ใช้สำหรับแบรนด์ชั้นนำอย่างมาม่าเท่านั้นไทย อันเป่า ยังผลิตถ้วยกระดาษหลากหลายขนาดเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกรูปแบบ ทั้งประเภทถ้วยกระดาษใส่บะหมี่และซุปชนิด Double Wall และถ้วยกระดาษสำหรับเครื่องดื่มร้อน ทั้งแบบ Single Wall และ Double Wal! ซึ่งที่ผ่านมาไทย อันเป่า เป็นผู้ผลิตถ้วยกระดาษให้กับแบรนด์ชั้นนำอีกหลายต่อหลายแบรนด์ด้วยกัน
“จุดเด่นที่ทำให้เราเป็นตัวเลือกสำคัญในใจลูกค้าคือ เราผลิตถ้วยกระดาษที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานสากลทั้ง ISO 9001, FSSC 22000, GHP และ HACCP ซึ่งก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ลูกค้าแบรนด์ชั้นนำมีความมั่นใจในสินค้าและนำไปใช้ในธุรกิจ ขณะเดียวกัน เรามีความคล่องตัว เรามีการบริการที่รวดเร็ว เพื่อไม่ให้เสียโอกาสที่ได้รับเข้ามา และก็สามารถตอบโจทย์ในสถานการณ์ปัจจุบันด้วย
“แนวคิดหรือกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจของไทย อันเป่า ที่สำคัญที่สุดคือ ความซื่อสัตย์ต่อคู่ค้า เราทำธุรกิจแบบ win-win เราไม่เอาเปรียบคู่ค้า ทั้งลูกค้า Supplier ผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงพนักงาน เพื่อให้ทุกฝ่ายสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีความสุข มีความไว้วางใจซึ่งกันและกันขณะเดียวกันเราก็ไม่หยุดที่จะพัฒนาและหาโอกาสใหม่ ๆ ในการขยายธุรกิจอยู่เสมอ
“ถัดจากนี้ ทางบริษัทฯได้วางแผนในการใช้ระบบ Automation ในกระบวนการผลิตเพิ่มมากขึ้น โดยนำเอาระบบสายพานเข้ามาใช้ในการผลิต เพื่อใช้แรงงานคนให้น้อยลง และช่วยให้พนักงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในส่วนของ AI จะเข้ามาช่วยเรื่องการวิเคราะห์ข้อมูลสำคัญของการผลิตในแต่ละวัน เพื่อให้การประมวลผลข้อมูลสะดวกยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมองเรื่องการขยายไลน์ผลิต ในกรณีที่ลูกค้าต้องการเพิ่มปริมาณสินค้า หรือรูปแบบสินค้าที่หลากหลายนอกเหนือจากที่มีอยู่ เราก็ยินดีที่จะลงทุนเพิ่มเพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาด และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น”
จากความเชื่อมั่นสู่การเป็นพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจ
“จากเดิมไทย อันเป่า ใช้การนำเข้าวัตถุดิบกระดาษ Cupstock จากต่างประเทศร้อยเปอร์เซ็นต์ จนกระทั่งทางผู้บริหารได้มีแนวคิดที่จะลดการนำเข้าวัตถุดิบชนิดดังกล่าว และเชื่อมั่นว่า SCGP มีศักยภาพที่จะผลิตกระดาษ Cupstock ที่มีคุณภาพเทียบเท่ากับต่างประเทศได้จึงได้เกิดความร่วมมือกันพัฒนากระดาษจนสำเร็จตามที่เราต้องการใช้งาน และก็เป็นพาร์ตเนอร์กันเรื่อยมา
“เราประทับใจ SCGP เพราะว่าทีมงานมีความรู้ ความสามารถ มีการบริการที่ดี เมื่อพบว่าสินค้ามีปัญหา เราจะได้รับทราบสาเหตุและแนวทางแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ตลอดเวลาที่ร่วมงานกันมา SCGP รับฟังความคิดเห็น อีกทั้งให้ความรู้ เสนอแนวทางใหม่ ๆ มีการอัปเดตข้อมูลให้กับลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ ทำให้รู้สึกว่าที่ผ่านมาเราเป็นพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจต่อกันมากกว่าที่จะเป็น Supplier หรือ Customer
“ในอนาคตเราก็อยากให้ SCGP ให้ความร่วมมือและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับไทย อันเป่า เติบโตยิ่งขึ้นยังเป็นพาร์ตเนอร์ที่ดีอย่างนี้ต่อไปค่ะ” คุณพจนารถกล่าวทิ้งท้าย
พี่เจน – ดร.พงษ์สุดา : เปิดใจรับทุกความแตกต่าง ทุกอย่างก็เป็นไปได้
อีกหนึ่งผู้บริหารที่ขับเคลื่อนการทำงานโดยใช้ Passion ในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่เพื่อต่อยอดทางธุรกิจมาอย่างยาวนาน กระทั่งพี่เจน – ดร.พงษ์สุดา (ภูมะธน) ผ่องธัญญา Managing Director – Deltalab SL ประเทศสเปน มีโอกาสได้รับผิดชอบภารกิจใหม่ไกลถึงยุโรป ได้พบเจอกับความแตกต่างหลากหลายรอบด้าน ด้วยความมุ่งมั่นพร้อม Mindset ที่ดีที่พี่เจนพกติดตัวไปด้วย ทำให้ช่วยขับเคลื่อนให้งานบริหารที่ท้าทายเดินหน้าไปได้อย่างราบรื่น
จากนักวิจัย สู่นักบริหาร
“พี่เป็นนักเรียนทุนรัฐบาลอังกฤษ-ไทย เรียนจบปริญญาโทและเอกจากสหราชอาณาจักร ในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับ Biotechnology และ Biochemical Engineering พอเรียนจบก็กลับมาทำงานเป็นนักวิจัยทางด้านไบโอเทคโนโลยีที่ประเทศไทย โดยส่วนตัวพี่มีความสนใจเกี่ยวกับการทำงานวิจัยให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงธุรกิจหรือประโยชน์ต่อผู้คนอยู่แล้ว จึงอยากทำงานกับองค์กรชั้นนำ เพื่อผลักดันให้สินค้าเป็นทั้งนวัตกรรม และนำไปต่อยอดทางธุรกิจได้
“พี่เริ่มงานที่ SCG เมื่อปี 2550 ทำหน้าที่ในการหาธุรกิจใหม่ ๆ ให้กับบริษัท ทั้งด้านที่เกี่ยวกับ Healthcare & Life Science รวมถึงการบริหารจัดการระบบวิจัยและพัฒนา ตอนนั้นเป็นช่วงที่บริษัทหานักวิจัยเข้ามาพัฒนานวัตกรรมสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม (High Value Added Product & Services) พี่ได้มีส่วนร่วมในการจัดการระบบงานวิจัย พัฒนา และนวัตกรรมเรื่องการวัด Performance รวมถึงการดูแลนักวิจัยต่าง ๆ
“พอถึงช่วงกลางปี 2556 ก็ย้ายไปเป็นผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยี SCGP ทำหน้าที่ผลักดันงานวิจัยให้เข้าสู่ธุรกิจจริง ซึ่งเป็นงานที่พี่ชอบและรักมาก ๆ กระทั่งเดือนธันวาคม 2564 ได้รับมอบหมายให้มาทำหน้าที่ Deputy Managing Director ที่ Deltalab ประเทศสเปน จนเวลาผ่านไปประมาณ 1 ปี Mr. Jose Saez (Managing Director ท่านก่อน) ได้ส่งต่องานมาให้พี่ดูแลในฐานะ Managing Director”
เตรียมพร้อม เรียนรู้ สู้! ทุกความท้าทาย
“สำหรับพี่ความท้าทายเกิดขึ้นตั้งแต่ทราบว่าต้องมาทำงานนี้แล้ว เพราะแม้จะเรียนจบมา แต่ก็ยังไม่เคยบริหารจัดการธุรกิจด้านนี้มาก่อนและต้องมาไกลถึงยุโรปด้วย ทั้งหมดเป็นเรื่องใหม่ เรากังวลทั้งเรื่องธุรกิจและวัฒนธรรม ไม่ทราบว่าจะได้รับการยอมรับมากน้อยแค่ไหน เรียกได้ว่าสิ่งที่เป็น Growth Mindset จำเป็นมาก ๆ เรามาพร้อมกับเปิดใจ เตรียมตัวสู้อย่างเดียว ศึกษาข้อมูลธุรกิจประเภทนี้ องค์ความรู้ต่าง ๆ ตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ต่างประเทศก็ดึงกลับมาใช้ ควบคู่กับการเรียนรู้สิ่งใหม่ เทคโนโลยีใหม่ เพื่อให้สอดรับกับธุรกิจทางด้าน Healthcare & Life Science ที่เป็นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี”
“ในฐานะผู้บริหารและเข้าไปอยู่ใหม่ ซึ่งเรามากัน 2 คนกับน้องอีกท่านนึง ก่อนอื่นเลยต้องคิดว่าทำอย่างไรที่เราจะสามารถเข้าไปทำงานกับทีมที่นั่นได้อย่างดีมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมและเป็นประโยชน์ต่อยอดงานของบริษัทได้ ในขณะเดียวกันก็ต้องสร้างความไว้วางใจให้ทีม ต้องเอาตัวเราเข้าไปหาเขาในทุกฟังก์ชัน ต้องมีวัตถุประสงค์ชัดเจน มีข้อมูล วางแผนเตรียมตัวให้พร้อม นอกจากนี้การสื่อสารกับทีมและผู้ที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ ที่จะทำให้เข้าใจและพร้อมที่จะทำงานไปด้วยกัน หรือแม้แต่การไปพบลูกค้าก็ต้องทำความเข้าใจในธุรกิจของลูกค้าด้วย เหมือนกัน เราต่างเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เพื่อให้สามารถทำงานได้ตามที่รับมอบหมาย ทั้งในเรื่องการดูแลการดำเนินงานธุรกิจให้เติบโต และการประสานเชื่อมโยงทั้งสองบริษัท เพื่อที่จะร่วมงานกันได้อย่างราบรื่น“
“ขณะเดียวกันหน้าที่หลักของพี่คือ ทำงานร่วมกันกับทีม Deltalab วางแผนให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนดำเนินการได้จริง ผ่านการบริหารการจัดการอย่างเป็นระบบ สร้างแรงจูงใจให้พนักงาน ทำให้เขาเข้าใจถึงความเป็น SCGP และ Deltalab ว่าบริษัทจะขับเคลื่อนได้ด้วยพลังของพวกเขา สร้างทีมเวิร์ก เป็น Happy Workplace ตลอดปีที่ผ่านมา ธุรกิจเราต้องเจอกับความท้าทายรอบด้าน ทั้งเรื่องโควิด 19 เรื่องสงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งอยู่ใกล้ตัวมากในยุโรป เรื่องต้นทุนการผลิตสูงขึ้นทั้งราคาวัตถุดิบ ค่าขนส่ง และค่าพลังงานไฟฟ้า พี่คิดว่าในสถานการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ เราต้องเริ่มต้นด้วยการเปิดใจเรียนรู้ เตรียมพร้อมตั้งรับ ต้องหาวิธีแก้ไขปัญหาอย่างมีกลยุทธ์ สิ่งหนึ่งที่พี่มีความประทับใจคือ ความเชี่ยวชาญ ตลอดจนการเปิดใจและมิตรภาพของทีมงานที่นี่ ทำให้พวกเราสามารถทำงานเป็นทีมเดียวกันเป็นอย่างดี ช่วยกันแก้ไขปัญหาและผ่านสิ่งที่เป็นความท้าทายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมาได้”
เปิดใจ ปรับตัวรับความหลากหลาย
หากมองในเรื่องความหลากหลาย สถานการณ์ของพี่เจนในเวลานี้น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด จากการทำงานในพื้นที่ที่ต่างออกไปทั้งธุรกิจ ผู้คน ภาษา กฎหมาย และวัฒนธรรม
“การมาทำงานที่ Deltalab พี่พบเรื่องความหลากหลายค่อนข้างมาก จริงๆ แล้ว Deltalab ประกอบด้วยบริษัทย่อยอีก 5 บริษัท ได้แก่ Keylab, Nirco, Equilabo, Enfa และ Sanilabo เป็นทั้งผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ทางห้องปฏิบัติการและทางการแพทย์ ทั้งแบบ B2B และ B2C ซึ่งมีสินค้าที่ผลิตเองและไม่ได้ผลิตเองรวมกันกว่าหมื่นรายการ เจาะตลาดทั้งกลุ่ม Healthcare, Life Science และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ความหลากหลายด้านอาชีพและวิชาชีพ จากการร่วมงานกับทีมงานกว่า 200 คน การส่งออกสินค้าไปกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ทำให้พี่ได้เรียนรู้วิธีในการสื่อสารกับลูกค้า และตลาดในการขายสินค้าที่มีความหลากหลายมาก
“เรื่องวัฒนธรรม วิธีคิด และภาษา ก็เป็นเรื่องที่ต้องเรียนรู้เช่นกัน แม้ว่าจะใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักในการสื่อสาร แต่พี่ก็ต้องพยายามเข้าใจฝึกภาษาสเปนด้วย และใช้ภาษากายประกอบ เพื่อแสดงความจริงใจให้ออกมาได้มากที่สุด นอกจากนี้ยังมีเรื่องอื่น ๆ เช่น การสอบใบขับขี่รถยนต์ของสเปน เป็นต้น พี่คิดว่าทุกอย่างมันไม่ได้ยากเกินกว่าที่เราจะทำได้ ใช้วิธีคิดแบบนี้จูงใจตัวเอง มองแง่บวกกับทุกเรื่อง มองทุกอย่างเป็นข้อดี เป็นโอกาส พยายามปรับตัวและเรียนรู้ไปเรื่อย ๆ”
ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้
“Mindset ของพี่คือ ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ พี่คิดแบบนี้มาตลอด พี่จะพูดเสมอว่า ต่อให้วันนี้เป็นไปไม่ได้ วันข้างหน้ามันจะเป็นไปได้แน่นอน เหมือนที่เราเห็นหลาย ๆ อย่างในโลก เมื่อก่อนยังเป็นไปไม่ได้ แต่วันนี้มันก็เกิดขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้นเราต้องคิดอย่างถี่ถ้วน หาวิธีที่จะทำสิ่งนั้นให้เป็นไปได้ และลงมือทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถึงจะเรียกได้ว่าครบลูป ถ้าสิ่งที่เราทำแล้วสำเร็จ พี่จะดีใจอย่างพอประมาณ เก็บสิ่งนั้นมาเป็นพลังเพื่อใช้ในการทำงานอื่นต่อ ถ้าไม่สำเร็จ ก็เรียนรู้ในสิ่งที่ผิดพลาด เพื่อเป็นประสบการณ์และหาจุดที่ควรแก้ต่อไป จะเก็บทั้งสองอย่างมาใช้ขับเคลื่อนตัวเรา เพราะคิดแล้วลงมือทำ ดีกว่าได้แต่คิดแล้วไม่ทำ
“เรื่องการพัฒนาตัวเองก็ต้องทำอยู่ตลอด เพราะเรื่องใหม่ ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา และต้องคาดการณ์ให้ได้ว่า สิ่งใหม่ที่จะเกิดขึ้นต่อไปคืออะไร พี่ก็ต้องคิดว่าในอนาคต Deltalab จะเป็นอย่างไร ต้องดูภาพรวมทั้งหมดว่า โลกเปลี่ยนไปอย่างไร ความต้องการลูกค้าเป็นแบบไหน ยังมีโอกาสทางธุรกิจที่ไหนอีกบ้าง นอกเหนือจากที่เป็นอยู่ และจะเติบโตไปอย่างไร ฉะนั้นต้องอาศัยทั้งเรื่องการเรียนรู้ใหม่ ๆ การพัฒนาตนเองอยู่ตลอด
“ฝากถึงน้อง ๆ ทุกคนนะคะ SCGP เป็นองค์กรชั้นนำที่มีการพัฒนารูปแบบธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ที่นี่เปิดโอกาสให้พนักงานได้พัฒนาตัวเองมีการเทรนนิ่งเพื่อติดอาวุธให้พนักงานอยู่ตลอดด้วย พวกเราเองก็ต้องพร้อมที่จะเปิดใจ เรียนรู้ พัฒนาตัวเองแบบไม่หยุดนิ่ง หากเหนื่อยเราก็พักแล้วค่อยกลับมาสู้ต่อ หาจุดที่เราชอบ ที่จะทำให้เรามีความสุข และพัฒนาตนเองเพื่อเป็นอีกหนึ่งกำลังสนับสนุนให้บริษัทได้มากขึ้น พวกเราสามารถมีส่วนร่วมในการเติบโตของบริษัทจากการทำ M&P ได้ทั้งกลุ่มทีมแนวหน้าที่เดินทางมาปฏิบัติงานที่ต่างประเทศ และกลุ่มทีมสนับสนุนที่ทำงานอยู่ที่ประเทศไทย ตัวพี่เองแม้จะเตรียมพร้อมอยู่ตลอด แต่การมาในสถานที่ใหม่ ผู้คนใหม่ ๆ พี่ก็ยังต้องเรียนรู้เพิ่ม ต้องปรับตัว คนที่อยู่ไทยก็ต้องเตรียมพร้อมและทำงานร่วมกันในสิ่งใหม่ ๆ เราไม่มีทางรู้เลยว่าวันใดโอกาสจะมาถึง ทุกคนต้องเปิดใจ เรียนรู้ เตรียมความพร้อม เพื่อให้องค์กรเราเดินหน้าไปด้วยกันนะคะ” พี่เจนกล่าวทิ้งท้าย
รางวัลแห่งการจัดการขยะอย่างยั่งยืน
ปัญหาขยะไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ หากแต่แท้จริงแล้วมันคือปัญหาใหญ่ของโลก ซึ่งถ้าไม่มีการจัดการที่ถูกต้องเหมาะสมก็จะสร้างผลกระทบ และความเดือดร้อนให้กับโลกของเราอย่างมหาศาล
อำเภอบ้านโป่ง คืออำเภอหลัก ของจังหวัดราชบุรี นับเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลาย ทั้งด้านการเกษตร การค้า และอุตสาหกรรมต่าง ๆ จำนวนมาก ยังไม่ต้องพูดถึงความหลากหลายของจำนวนประชากร ที่มีผู้คนต่างถิ่น ทั้งในจังหวัดห่างไกล และใกล้เคียงเข้ามาพักอาศัย และทำงานในพื้นที่นี้เป็นจำนวนมาก
ด้วยความที่มีจำนวนประชากรมากถึง 173,000 คน และผลิตขยะมากถึงวันละ 171 ตันต่อวัน ทาง SCGP ซึ่งมีโรงงานผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์แห่งแรกตั้งอยู่ที่อำเภอบ้านโป่ง ได้สนับสนุนโครงการ CSR ของชุมชนรอบโรงงาน รวมถึงชุมชนปลอดขยะ (Zero West) ของบ้านรางพลับที่เป็นชุมชนต้นแบบระดับประเทศ จากการเข้าประกวด โครงการชุมชนปลอดขยะ (Zero Waste) ของกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม
SCGP จึงร่วมกับอำเภอบ้านโป่ง และ 17 องค์กรส่วนท้องถิ่น ขยายผลเรื่องการจัดการขยะไปยังชุมชนอื่น ๆ ในอำเภอ โดยกำหนดโครงการขับเคลื่อนชุมชนต้นแบบการจัดการขยะมูลฝอย อำเภอบ้านโป่ง เพื่อส่งเสริมความรู้ในการจัดการขยะ และศึกษาตัวอย่างการปฏิบัติจริงจากชุมชนรางพลับซึ่งเป็นชุมชนต้นแบบ เพื่อให้ประชาชนทั่วทั้งอำเภอจะได้มีความรู้ และสามารถจัดการขยะในชุมชนตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ซึ่งโครงการดังกล่าวมีชื่อว่า ‘บ้านโป่งโมเดล’
นับตั้งแต่โครงการ ‘บ้านโป่งโมเดล’ ได้รับการขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม ในทุก ๆ ปีจะมี ‘โครงการประกวดชุมชน LIKE (ไร้) ขยะ’ ซึ่งปัจจุบันได้จัดขึ้นเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันแล้ว
โดยเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมาอำเภอบ้านโป่ง ร่วมกับ SCGP ได้จัดพิธีมอบรางวัล ‘โครงการประกวดชุมชน LIKE (ไร้) ขยะ Season 3’ ณ ห้องประชุมอาคารอารีน่า หมู่ที่ 17 ตำบลท่าผา อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี โดยมีนายรณภพ เหลืองไพโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เป็นผู้มอบรางวัล และประธานในพิธี
ท่านผู้ว่าฯ ได้กล่าวชื่นชมอำเภอบ้านโป่งว่า “เป็นอำเภอที่เป็นแบบอย่างที่ดีในการจัดการขยะอย่างยั่งยืน และมีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง และมุ่งหวังจะนำบ้านโป่งโมเดล ขยายไปทั่วทั้งจังหวัด และทำให้ราชบุรีเป็นเมืองแห่งความสะอาด และปลอดขยะในอนาคตต่อไป”
ขณะที่ นายเกียรติศักดิ์ หอมเย็นใจ นายอำเภอบ้านโป่ง กล่าวว่า “เราต้องการขับเคลื่อนให้อำเภอบ้านโป่งของเราสามารถจัดการขยะในชุมชนของตนเองได้ ซึ่งนับตั้งแต่เริ่มต้นดำเนินโครงการเมื่อปี 2562 ถึงตอนนี้ก็ได้ขยายผลไปทั่วทั้งอำเภอ และโครงการประกวดชุมชน LIKE (ไร้) ขยะ ในปีนี้ ก็มีชุมชนให้ความร่วมมือ เข้าร่วมประกวดมากถึง 20 ชุมชน โดยแต่ละชุมชนต่างก็มีกิจกรรม และวิธีการจัดการขยะในพื้นที่ของตนอย่างน่าสนใจมาก ๆ ซึ่งการจัดการมอบรางวัลดังกล่าวขึ้นมานั้น เราไม่ได้ต้องการให้เกิดการแข่งขันกันแต่อย่างใด หากแต่เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการพัฒนา และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในการจัดการขยะของทุก ๆ ชุมชนในอำเภอบ้านโป่ง”
ด้านนายแสงชัย วิริยะอำไพวงศ์ พนักงานจัดการอาวุโสประจำสำนักงาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP กล่าวว่า “ทาง SCGP ยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ร่วมมือกับอำเภอบ้านโป่งในการสร้างชุมชนต้นแบบการจัดการขยะ และเราก็ยังจะเข้าไปร่วมส่งเสริมสนับสนุนชุมชนที่ได้รับรางวัลในวันนี้ ให้ก้าวไปสู่เวทีการประกวดชุมชนปลอดขยะ (Zero Waste) ในปี 2566 ต่อไป”
“ขณะเดียวกันก็ยังได้นำแนวคิดในการจัดการขยะไปขยายผลต่อในจังหวัดที่ SCGP มีโรงงานตั้งอยู่ทั้ง จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี และจังหวัดขอนแก่น ทำให้ปัจจุบันเราสามารถสร้างชุมชนต้นแบบการจัดการขยะได้ทั้งหมดถึง 96 ชุมชน และมีเป้าหมายที่จะขยายผลอย่างต่อเนื่องในอนาคต”
สำหรับผลการประกวดในครั้งนี้ คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และมีความรู้ในด้านการจัดการขยะ และสิ่งแวดล้อมได้คัดเลือกให้ รางวัลชนะเลิศ เป็นของ บ้านท่าศาลเจ้า หมู่ 6 องค์การบริหารส่วนตำบลลาดบัวขาว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความโดดเด่นในเรื่องการจัดการขยะเฉพาะตัว สามารถนำยางรถยนต์ที่ไม่ได้ใช้งานซึ่งมีอยู่จำนวนมากในชุมชน มาสร้างเป็นสนามเด็กเล่น ให้เกิดประโยชน์แก่ส่วนรวม สร้างมูลค่าจากขยะด้วยการนำขยะมาแปรรูปเป็นสินค้า และเครื่องประดับจำหน่ายเพิ่มรายได้ ขณะที่ผู้คนในชุมชนทุกหลังคาเรือนต่างก็ร่วมมือกันจัดการขยะอย่างเข้มแข็ง และสามัคคี
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ชุมชนหัวทุ่งหนองโรง หมู่ 3 เทศบาลตำบลกรับใหญ่ เป็นชุมชนที่สามารถนำเอาทรัพยากรหมุนเวียนมาใช้ได้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยใช้ฟืน หรือก้อนเห็ดที่ไม่ได้ใช้งานเป็นเชื้อเพลิง หลังจากจบกระบวนการจะได้ถ่านมาใช้งาน เศษถ่านนำมาทำถ่านอัดก้อน เป็นพลังงานอีกครั้ง หรือนำไปใช้ปลูกต้นไม้ ขี้เถ้าที่เหลือนำมาทำน้ำด่างเพื่อใข้ประโยชน์ต่อเป็นน้ำยาซักผ้า น้ำยาล้างจาน
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ ชุมชนหนองกระจ่อยสร้างสรรค์ เทศบาลตำบลกระจับ เป็นชุมชนกึ่งเมือง
ที่โดดเด่นในเรื่องการนำเอาวัสดุเหลือใช้ต่าง ๆ มาทำเป็นเครื่องออกกำลังกาย และผู้คนในชุมชนต่างให้ความร่วมมือในการจัดการขยะกันเป็นจำนวนมาก
ขณะที่รางวัลชมเชย มี 3 ชุมชน ที่ได้รับรางวัลด้วยกัน ได้แก่ ชุมชนบ้านฆ้องน้อย หมู่ 12 เทศบาลเมืองท่าผา ชุมชนกึ่งเมืองที่นำขยะกำพร้า ที่ไม่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ เช่น ถุงขนม ถุงน้ำยาปรับผ้านุ่ม ต่าง ๆ มาหล่อเป็นอิฐบล็อก และทางเดินเท้าได้อย่างสวยงาม
ชุมชนบ้านตะคร้อ หมู่ 12 เทศบาลตำบลเบิกไพร ชุมชนกึ่งเมืองที่เชี่ยวชาญในการนำขยะ จำพวกผ้าที่ไม่ใช้แล้วนำมาหล่อปูนทำเป็นกระถางต้นไม้ และบ้านตลาดนัด หมู่ 13 องค์การบริหารส่วนตำบลคุ้งพยอม ซึ่งจัดการขยะในครัวเรือนได้อย่างดี รวมทั้งผลิตถังหมักเศษอาหาร ในแบบตัวเองขึ้นมาใช้เองได้ทุกหลังคาเรือน
ส่วนรางวัลชุมชนโชว์แอนด์แชร์ยอดเยี่ยม ในปีนี้ตกเป็นของ ชุมชนหนองกระจ่อยสร้างสรรค์ เทศบาลตำบลกระจับ ซึ่งเป็นชุมชนที่ผลิตเนื้อหาการจัดการขยะลงสื่อโซเชียลได้อย่างสม่ำเสมอ
ทั้งหมดที่กล่าวมา คือ เป็นชุมชนในอำเภอบ้านโป่งที่ได้รับรางวัลในโครงการประกวดชุมชน LIKE (ไร้) ขยะ Season 3 อย่างไรก็ตาม รางวัลที่ได้รับนั้น ถือเป็นความสำเร็จเพียงส่วนหนึ่ง แต่ความสำเร็จที่แท้จริงคือ ทุกชุมชนในอำเภอบ้านโป่งล้วนได้รับประโยชน์ ที่ล้ำค่ายิ่งกว่าทรัพย์สิน เงินทอง หรือถ้วยรางวัลใด ๆ
สิ่ง ๆ นั้นคือ บ้านเมืองที่มีแต่ความสะอาดน่าอยู่ อันเนื่องมาจากการจัดการรขยะอย่างยั่งยืน และทำได้จริง
SCGP ร่วมอัปเดตเทรนด์โซลูชันบรรจุภัณฑ์เพื่อการตลาดและความยั่งยืน ในงานแถลงข่าว ProPak Asia 2023
SCGP ร่วมงานแถลงข่าว Propak Asia 2023 งานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีด้านกระบวนการผลิต การแปรรูปและบรรจุภัณฑ์แห่งภูมิภาคเอเชีย โดยมีคุณกรัณย์ เตชะเสน ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) (SCGP) และประธานกรรมการ บริษัทเว็กซ์เซล แพ็ค จำกัด เป็นตัวแทนภาคเอกชนในการร่วมอัปเดตเทรนด์โซลูชันบรรจุภัณฑ์เพื่อการตลาดและความยั่งยืนในงานแถลงข่าวดังกล่าว เมื่อวันอังคารที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 ณ โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท
คุณกรัณย์ เตชะเสน เล่าถึงเทรนด์บรรจุภัณฑ์ว่า ปัจจุบันผู้บริโภคต้องการบรรจุภัณฑ์ที่ช่วยตอบสนองด้านความสะดวกสบายและตอบโจทย์ในการใช้งานที่หลากหลาย รวมถึงมีความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทำให้ผู้ออกแบบและผลิตบรรจุภัณฑ์ต้องใส่ใจในการนำเสนอบรรจุภัณฑ์มากยิ่งขึ้น โดย SCGP มุ่งมั่นในการเป็นผู้นำด้านโซลูชันบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน จึงได้พัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคด้วยการนำเสนอโซลูชันบรรจุภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยมองว่าบรรจุภัณฑ์ไม่ได้ทำหน้าที่แค่บรรจุหรือปกป้องผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มมูลค่าทางการตลาด ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดี และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับแบรนด์สินค้าอีกด้วย
นอกจากนี้ SCGP ยังมุ่งเน้นพัฒนาบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน ตัวอย่างเช่น บรรจุภัณฑ์ Flexible packaging ที่ทำจาก Mono-material หรือวัสดุชนิดเดียว จึงสามารถนำไปรีไซเคิลได้ง่าย บรรจุภัณฑ์ที่นำพลาสติกรีไซเคิลมาเป็นส่วนหนึ่งในการผลิต เช่น บรรจุภัณฑ์ rPET สำหรับของใช้ในบ้าน แชมพู น้ำยาล้างจาน และบรรจุภัณฑ์ช่วยยืดอายุสินค้า OptiBreath® ซึ่งช่วยลดขยะอาหาร (Food waste) ที่ทาง SCGP พัฒนาขึ้นเพื่อยืดอายุผักและผลไม้สด ลูกค้านำบรรจุภัณฑ์ไปใช้ยืดอายุมะพร้าวเจียจาก 30 วันเป็น 60 วัน หรือยืดอายุมะพร้าวสดแบบควั่นจาก 60 วัน เป็น 90 วัน ทำให้ลูกค้าขยายตลาดการส่งออกผลไม้ได้ เนื่องจากรองรับการส่งออกทางเรือที่ต้องใช้เวลาขนส่งนาน ช่วยสร้างแบรนด์และเพิ่มมูลค่าทางการตลาดให้กับผลิตภัณฑ์ด้วย
“การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน ผู้ผลิตต้องพิจารณาทั้งห่วงโซ่คุณค่า ตั้งแต่การออกแบบ การเลือกใช้วัตถุดิบน้อยลง นำกลับมาใช้งานใหม่ได้หรือรีไซเคิลได้ง่าย กระบวนการผลิตต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการคำนึงถึงขั้นตอนการบรรจุและการขนส่งที่เหมาะสม รวมถึงการร่วมมือกับเครือข่ายลูกค้าเพื่อช่วยกันพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนได้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคและร่วมดูแลสิ่งแวดล้อมทั้งระบบ” คุณกรัณย์กล่าว
งาน ProPak Asia 2023 เป็นงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีกระบวนการผลิต แปรรูป และบรรจุภัณฑ์ สำหรับอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม ยารักษาโรค และเครื่องอุปโภคบริโภคระดับนานาชาติ โดยมีกำหนดการจัดงานระหว่างวันที่ 14-17 มิถุนายน พ.ศ. 2566 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา
Mr. Jose Saez : เปลี่ยนความแตกต่างเป็นไอเดียใหม่ในการทำงาน
การทำงานภายใต้ความหลากหลาย นับเป็นความท้าทายอีกรูปแบบหนึ่งที่ต้องอาศัยการปรับตัวและเปิดใจยอมรับในความต่างนั้น ครั้งนี้เรามีโอกาสได้พูดคุยเพื่อเรียนรู้มุมมองเกี่ยวกับการทำงานภายใต้วัฒนธรรมที่แตกต่างกับ Mr. Jose Saez Executive Director & Advisor ของ Deltalab ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงบาร์เซโลนา ประเทศสเปน แม้จะมีความต่างในเรื่องภาษา และเวลาที่ห่างกัน6 ชั่วโมง แต่นั่นไม่ทำให้เกิดช่องว่างใด ๆ ในการสื่อสารและการทำงานร่วมกัน
“หน้าที่หลักของผมคือ ช่วยสนับสนุนการทำงานของทีม SCGP กับทีมงานของเราในสเปน ช่วยให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการบริหารจัดการ การวางกลยุทธ์ วางแนวทางการทำงานร่วมกัน เพื่อให้เราสามารถเชื่อมต่อกับSCGP ได้อย่างดีที่สุด
“ปัจจุบันการทำการตลาดให้ประสบความสำเร็จเป็นเรื่องที่ท้าทายและไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป โดยเฉพาะช่วงหลังสถานการณ์โควิด 19 และการเกิดสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ส่งผลให้ปีที่ผ่านมาต้นทุนวัตถุดิบมีราคาสูงขึ้นมาก เรื่องการขนส่งก็ไม่ง่าย ท่ามกลางปัญหาต่าง ๆ เราก็ต้องพยายามเพิ่มยอดขายให้มากขึ้นเช่นกัน ดังนั้นสิ่งที่จะทำได้คือ ต้องคิดว่างานของเราไม่ได้เป็นแค่เรื่องของวันนี้หรือพรุ่งนี้ แต่เราต้องมองให้ไกลไปกว่านั้น ต้องมองให้เห็นภาพที่ชัดเจนว่า ในอีก 5 ปี ธุรกิจจะเป็นอย่างไร เพื่อที่จะวางแผนกลยุทธ์ของบริษัทได้ ซึ่งจากความช่วยเหลือของ SCGP ผมเชื่อว่าเราจะชนะคู่แข่งในตลาดได้”
ความหลากหลาย แตกต่าง สู่การสร้างไอเดียใหม่ ๆ
“การทำงานท่ามกลางความหลากหลายไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับผม ผมเข้าลงทุนใน Deltalab ตอนปี 2007 ในช่วง 16 ปีที่ผ่านมา เรามีการซื้อกิจการอื่น ๆ เพิ่มเติมเข้ามาเพื่อเติบโต มีบริษัทที่มาดริด วาเลนเซีย และมูร์เซีย การทำงานจึงค่อนข้างมีความหลากหลาย แม้สเปนจะเป็นประเทศเล็ก แต่เราก็มีความต่างทางภาษาและวัฒนธรรมเช่นกัน ผมอยู่บาร์เซโลนา พูดภาษาคาตาลัน ไม่ได้พูดสเปนเหมือนคนมาดริด โดยส่วนตัวผมคิดว่า ความแตกต่างหลากหลายในบริษัทเป็นสิ่งที่ดี จะช่วยสร้างอะไรใหม่ ๆ ได้มาก การได้ทำงานร่วมกับ SCGP ในฐานะพาร์ตเนอร์ก็เช่นกัน ข้อดีของการผสมผสานที่หลากหลายนี้จะทำให้เราได้ไอเดียใหม่เพิ่มเข้ามา ได้มุมมองความคิดใหม่ ๆ ซึ่งผมเชื่อว่าจะช่วยให้บริษัทเติบโตไปอีกมาก
“สิ่งที่ผมประทับใจในการทำงานร่วมกับ SCGP คือ การให้คุณค่าคนทำงานการประชุมแต่ละครั้ง เราจะหาจุดที่ทำให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นคำนึงถึงคนทำงานเป็นหลัก ซึ่งนั่นมีประโยชน์ต่อจุดมุ่งหมายที่จะก้าวไปข้างหน้าของเรา
“สำหรับผม Passion ในชีวิตและการทำงานเป็นสิ่งสำคัญ Deltalab ถือว่าเป็น Passion ของผมมานานกว่า 16 ปี ผมคิดว่าหากเราตื่นนอนตอนเช้า แล้วเรามีความรู้สึกอยากที่จะทำในสิ่งที่เราชอบหรือหลงใหลกับมัน เราจะประสบความสำเร็จในการทำงานแต่ละวัน หรือแม้แต่การดำเนินชีวิตแต่ละวัน และ Passion ไม่ได้หมายถึงแค่การทำงานเท่านั้นแต่เป็นเรื่องของการใช้ชีวิตทั้งกับครอบครัวและเพื่อน ๆ ด้วย นอกจากนี้ เรายังสามารถส่งต่อ Passion ให้กับคนรอบข้างได้อีกด้วย”
SCGP ต่อยอดแนวทาง ESG ผ่านการออกแบบนิทรรศการและสื่อต่าง ๆ จากวัสดุรีไซเคิลในงานประชุม APEC 2022 THAILAND
SCGP ต่อยอดแนวทาง ESG ผ่านการออกแบบการประชุมในลักษณะ Green Meeting โดยใช้กระดาษรีไซเคิลเป็นวัสดุจัดงานร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ เนื่องในโอกาสที่ประทศไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือ APEC 2022 Thailand
ทุกวันนี้การจัดประชุมหรือนิทรรศการจะมีการตกแต่งบูทให้สวยงาม แต่หากนำวัสดุใหม่ ๆ มาใช้ตลอดเวลา ขณะที่ทรัพยากรก็เริ่มลดลง อาจยิ่งเร่งวิกฤติโลกร้อน SCGP จึงสนับสนุนการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าด้วยการนำแนวคิดของการนำมาใช้ซ้ำ ลดการใช้ และนำมาใช้ประโยชน์ได้อีก มาออกแบบการประชุมในลักษณะ Green Meeting โดยใช้กระดาษรี่ไซเคิลมาออกแบบและผลิตบูท ซึ่งนอกจากเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังแข็งแรงทนทาน สามารถใช้จัดงานหรือจัดแต่งสถานที่ที่มีการจัดกิจกรรมได้ตลอดปี ไม่ว่าจะเป็นซุ้มประตูทางเข้า ฉากหลัง จุดถ่ายภาพ โพเดียม และสื่อในการประชาสัมพันธ์งาน หรือแม้แต่ถังขยะ SCGP ก็นำกระดาษมาเป็นวัตถุดิบหลักในการใช้งาน
หลังเสร็จสิ้นการใช้งาน นอกจากจะนำกระดาษมาทำเป็นกล่องให้ผู้เข้างานใส่ของกลับบ้านแล้ว SCGP ยังนำบูทกระดาษมารีไซเคิลใหม่ ผลิตเป็นชั้นวางหนังสือรักษ์โลกให้น้อง ๆ ในโรงเรียนที่ขาดแคลน ซึ่งช่วยลดปริมาณขยะได้อีกด้วย
การนำกระดาษมาใช้เป็นวัสดุจัดงานประชุมหรืองานนิทรรศการไม่เพียงใส่ความคิดสร้างสรรค์ ดีไซน์เป็นสิ่งต่าง ๆ ได้มากมาย ไร้ข้อจำกัดแล้วยังแข็งแรงทนทาน ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า สร้างความประทับใจให้ทุกคน และเป็นการร่วมมือกันดูแลสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นอีกด้วย
ข้อดีของบูทกระดาษ
- น้ำหนักเบา
- ขนย้ายง่าย
- ติดตั้งได้เร็วกว่านิทรรศการแบบเดิมถึง 2 เท่า
- ดีไซน์สวยงามสะดุดตา
- ใช้งานได้ตลอดทั้งปี หรือประมาณ 14 ครั้ง