การดูแลทรัพยากรบุคคลเป็นประเด็นสำคัญที่ SCGP ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก a LOT ฉบับนี้จึงชวนคุณอนิรุธ ณ น่าน People Caring Director มาบอกเล่าการขับเคลื่อนนโยบายในการบริหารคน หลากหลายเจเนอเรชันในองค์กร ให้มีทักษะความสามารถ ทำงานร่วมกันได้อย่างสอดประสาน พร้อมรับมือกับโลกธุรกิจยุคใหม่ ควบคู่ไปกับการดูแลให้พนักงานทุกคนทำงานด้วยความสุขไปพร้อม ๆ กัน
ซึมซับวิธีการทำงาน
เริ่มต้นงานทรัพยากรบุคคลในกลุ่มธุรกิจวัสดุก่อสร้าง แล้วย้ายมากลุ่มธุรกิจเซรามิก และได้รับโอกาสให้ไปทำงานกับบริษัทต่าง ๆ ทั้งบริษัทที่ SCG บริหารเอง และบริษัทร่วมทุนกับต่างชาติ ที่มีบริษัทอยู่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และจีน เก็บเกี่ยวประสบการณ์และวิธีการทำงาน แนวคิดต่าง ๆ จากภารกิจที่รับผิดชอบเรื่อยมา
“ผมดูทั้งงานบริหารงานบุคคล ทั้งงานธุรการ ได้เจอคนหลากหลาย ประสบการณ์ และการเรียนรู้ที่ได้นำมาใช้ในปัจจุบันหลายเรื่อง ช่วงหนึ่งได้ทำงานร่วมกับคนญี่ปุ่น ได้เรียนรู้จากเขาทั้งความทุ่มเท ความใส่ใจ ลงรายละเอียด ทำงานเป็นทีมโดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิธีการทํางานแบบมีขั้นตอนชัดเจน รู้ว่าสิ่งที่จะต้องทำ สิ่งที่จะต้องส่งมอบคืออะไร ใครเป็นผู้รับผิดชอบ ข้อมูลที่ต้องใช้มีอะไรบ้าง รวมถึงวิธีการพูดคุยเพื่อให้ได้มาซึ่งแนวทางแก้ปัญหา มีการประชุมทุกวัน วันละครึ่งชั่วโมง หยิบปัญหาของวันก่อนมาคุยและหาทางแก้ไข ถือเป็นวัฒนธรรมของคนญี่ปุ่น ผมจึงนำวิธีนี้มาปรับใช้เมื่อต้องการคุยเรื่องต่าง ๆ โดยไม่ได้คุยเพื่อหาคนผิด แต่คุยเพื่อหาแนวทางให้งานสำเร็จ”
Transform ธุรกิจ ต้อง Transform คน
“10 กว่าปีก่อน ผมย้ายมาที่ SCGP ซึ่งเป็นช่วงที่ธุรกิจเยื่อและกระดาษกําลังจะ Transform ในมุมของการดูแลคน มีหลายอย่างที่ต้องทํา ช่วยกันจัดหน้างาน จัดทีมใหม่เกือบทั้งหมด เพื่อให้ธุรกิจก้าวเปลี่ยนไปอีกมิติหนึ่ง ระบบงานด้านบุคคล การจัดโครงสร้างองค์กร รูปแบบการทำงานสําหรับหน่วยงานหรือธุรกิจใหม่จะเป็นแบบไหนเพื่อให้ตอบโจทย์ธุรกิจให้ได้ ในขณะเดียวกัน ต้องเปลี่ยน Mindset คนด้วย น้อง ๆ ทุกคนในตอนนั้นจะรู้ว่า เราคือส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้องค์กรได้ไปต่อหรือไม่ ทุกคนต้องช่วยกันหมด และสุดท้ายเราก็ผ่านช่วงเวลานั้นมาได้และกลับมาเข้มแข็งอย่างทุกวันนี้”
People Caring ดูแลพนักงานให้ทำงานอย่างมีความสุขทุกช่วงชีวิต
“SCGP ตั้งชื่อหน่วยงานการบุคคลว่า ‘People Caring’ เพราะผู้บริหารมองว่า ระบบบริหารงานบุคคลสมัยใหม่จะเปลี่ยนไปและเกี่ยวข้องกับพนักงานทุกคน เน้นเรื่องความสุขในการทำงานมากขึ้น ทำอย่างไรจะให้ทุกคนในบริษัทมีความสุขในการทำงาน โดยเฉพาะพี่ ๆ หัวหน้าในระดับต่าง ๆ เพราะเป็นคนที่น้อง ๆ จะมาคุยด้วยเป็นคนแรกเวลาเขามีปัญหา ในมุมของ People Caring เราถือว่าคนคือสินทรัพย์ที่มีค่า ความชอบ ความโกรธ ความรัก ดังนั้นการดูแลให้ทุกคนมีความสุข ทุกคนจะต้องพูดคุยและรับฟังซึ่งกันและกัน
“People Caring ดูภาพรวมของระบบการดูแลพนักงานตลอดช่วงชีวิตการทำงาน ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มงาน วางระบบการฝึกอบรม การพัฒนา การเรียนรู้เรื่องต่าง ๆ เพื่อให้พนักงานสามารถทำงานได้ดี มีความเจริญก้าวหน้า มีการบริหารค่าจ้าง ผลตอบแทนและสวัสดิการ ไปจนถึงวันสุดท้ายที่เกษียณอายุ เราต้องทำให้พนักงานทุกคนทุกช่วงอายุทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข ด้วยแนวคิดนี้ บริษัทมีการปรับปรุง ระเบียบ แนวปฏิบัติ และสวัสดิการ รวมทั้งการฝึกอบรมและพัฒนามาโดยตลอด แม้แต่พนักงานที่จะเกษียณอายุ เราดูแลด้วยการเตรียมความพร้อมกับชีวิตหลังเกษียณ มีหลักสูตรเรื่องการบริหารจัดการเงิน แนะนําสิทธิและผลประโยชน์ ทั้งจากกองทุนประกันสังคมและกองทุนประกันสุขภาพถ้วนหน้าของภาครัฐ รวมทั้งการรู้เท่าทันต่อสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างกลุ่มมิจฉาชีพ คอลเซนเตอร์ โดยเชิญตํารวจมาสอน เอาเคสจริงมาเล่าให้ฟัง
“งานบุคคลสมัยใหม่ท้าทายกว่าแต่ก่อนเยอะ เมื่อเทคโนโลยีต่าง ๆ เปลี่ยนไป เราต้องเสริมให้พนักงานพร้อมรับและรู้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงนี้ ไม่ว่าจะเป็น การอบรมให้ใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการทํางานให้ดีขึ้น พี่ ๆ ทุกคนช่วยกันสื่อสาร และกระตุ้นให้พนักงานเห็นความสำคัญ อย่างเรื่องเทคโนโลยี AI คือเครื่องมือประเภทหนึ่งที่จะมาช่วยเราทำงานให้ดีขึ้น ไม่ใช่มาแทนคน แต่ถ้าเราไม่เรียนรู้ที่จะใช้ให้เป็น คนอื่นที่ใช้เป็นจะมาแทนเรา ซึ่งโมเดลของการพัฒนาคนของ SCGP พนักงานทุกคนจะอยู่ในแผนการเรียนรู้ที่ต้องพัฒนาเรื่องนี้ทุกคน เพียงแต่เรื่องที่พัฒนาต่างกันตามหน้างาน”
มองหาโอกาส จากความเปลี่ยนแปลง
“การได้รับมอบหมายให้ทำงานใหม่ ๆ ถือเป็นโอกาสในการเรียนรู้อย่างมาก เราจะได้เจอคนเก่ง เข้าใจแนวคิดและเห็นวิธีการทํางานที่แตกต่าง และสิ่งที่ได้มาแบบไม่รู้ตัวคือ Connection ความสัมพันธ์ต่อเพื่อนร่วมงาน ซึ่งช่วยเสริมเรื่องการทํางานได้
“อีกเรื่องหนึ่งที่อยากแนะนำพนักงานทุกคนคือ แนวคิดเรื่องการพัฒนาตัวเอง การพัฒนาตัวเองเป็นเรื่องของตัวเราเอง บริษัทมีหน้าที่สนับสนุน ตอนนี้ สถานการณ์โลกปัจจุบันเปลี่ยนแปลงเร็ว การอยู่นิ่งแปลว่า เราถอยหลังแล้วนะเราต้องตามให้ทัน ยิ่งเราพัฒนาตัวเองมากเท่าไหร่ ยิ่งเพิ่มโอกาสให้กับเรามากขึ้นครับ
“สุดท้ายคือ อย่าอายที่จะเรียนรู้ อย่าไปคิดว่าเราจะเสียฟอร์มที่ต้องขอความรู้เรื่องเทคโนโลยีหรือเรื่องต่าง ๆ จากคนที่อาวุโสน้อยกว่าหรือเด็กรุ่นใหม่ ต้องยอมรับว่าน้อง ๆ โตมากับเทคโนโลยี ลองเรียนรู้จากเขา แล้วนำมาประยุกต์ใช้ ถ้าเกิดใช้แล้วดี ให้พัฒนาต่อยอดขึ้นไปทำให้ดีกว่าเดิม ถ้าผิดจะได้รู้เป็นบทเรียนว่า คราวหน้าจะไม่ซ้ำเดิมอีก” คุณอนิรุธกล่าวทิ้งท้าย