SCGP Newsroom

กรัณย์ เตชะเสน – หมั่นเรียนรู้ หาโอกาส สร้างคำตอบ

เป้าหมายสำคัญของ SCGP คือ การพัฒนาสินค้า บริการ และโซลูชัน เพื่อตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่เสมอ ในครั้งนี้เราได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์กับพี่กรัณย์ เตชะเสน ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กิจการบรรจุภัณฑ์จากวัสดุสมรรถนะสูงและพอลิเมอร์ – SCGP
หนึ่งในผู้บริหารที่เรียกได้ว่าเติบโตมากับครอบครัว SCGP พร้อมกับความเปลี่ยนแปลงขององค์กรมาทุกยุคทุกสมัย

เส้นทางการทำงาน บนการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

เริ่มต้นเส้นทางการทำงานกับ SCGP ที่โรงงานบ้านโป่ง ตั้งแต่ปี 2531ต่อเนื่องยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน เหตุการณ์สำคัญที่พี่กรัณย์จำได้ดีคือ เป็นช่วงที่ธุรกิจเยื่อและกระดาษเริ่มบุกเบิกตลาดกระดาษพิมพ์เขียน จากเดิมที่อยู่ในตลาดกระดาษบรรจุภัณฑ์

“ช่วงแรกดูแลงานวิศวกรรมครับ ต่อมาได้ดูแลการผลิตกระดาษอาร์ตคุณภาพสูงที่ใช้กับนิตยสารชั้นนำหรือจากต่างประเทศ ทำเต็มตัวอยู่ราว ๆ 8 ปี ระหว่างนั้นได้ทุนของสภาอุตสาหกรรมฯ ไปศึกษางานผลิตกระดาษในประเทศสกอตแลนด์อยู่เกือบปี จากนั้นได้ทุนของ SCG ไปเรียนต่อด้าน MBA ที่สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จนจบเมื่อปี 2542 จึงกลับมาทำงานในสายงานด้านการตลาด

“ช่วงนั้นธุรกิจเน้นตลาดกระดาษบรรจุภัณฑ์ เพราะเพิ่งขยายกำลังผลิต พี่ได้เข้าไปดูในส่วนวางแผนการตลาด สนับสนุน แก้ปัญหาให้ส่งออกได้มาก ๆ ซึ่งมีส่วนร่วมบุกเบิกธุรกิจนี้ของเรา ทั้งที่ฟิลิปปินส์และเวียดนาม นอกจากนี้ก็ดูแลการสร้างแบรนด์สินค้าของบริษัทสยามคราฟท์อุตสาหกรรม จำกัด จนได้รับตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ดูแลในธุรกิจนี้ต่อเนื่องประมาณ 10 ปี ก่อนจะย้ายไปดูแลงานที่บริษัทกลุ่มสยามบรรจุภัณฑ์ จำกัด โรงงานนวนคร ซึ่งเป็นโรงงานหลัก ฝั่งกรุงเทพฯ ตอนเหนือ ย้ายไปยังไม่ถึงปีก็เกิดน้ำท่วมใหญ่ ปี 2554 โรงงานเราได้รับผลกระทบพอสมควร ถือเป็นความท้าทายที่ต้อง บริหารงานและฟื้นฟูธุรกิจในช่วงเวลานั้น พอสถานการณ์เริ่มเข้าที่ก็ย้ายมาดูทางด้าน business integration และการขยายธุรกิจไปยังธุรกิจที่นอกเหนือจากกระดาษ

“ประมาณปี 2558 เรารีแบรนด์จาก SCG Paper เป็น SCG Packaging เดินหน้าขยายไปยังธุรกิจ Flexible Packaging โดยเข้าไปร่วมเป็นพาร์ตเนอร์กับบริษัทต่าง ๆ ทั้งที่ไทยและเวียดนาม พอเข้าไปแล้ว เราก็ต้องพยายามสร้างการเติบโตให้ธุรกิจ ทั้งเรื่องเงินทุน หรือบุคลากร ต่อมาเราก็ต่อยอดเป็นโซลูชันบรรจุภัณฑ์ที่หลากหลาย เช่น บรรจุภัณฑ์คงรูป หรือบรรจุภัณฑ์สมรรถนะสูง ทดแทนกระป๋อง เป็นต้น เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าให้ครอบคลุมมากขึ้น ตามวิสัยทัศน์ของเราที่มุ่งมั่นในการเป็น Packaging Solutions Provider จนมาถึงกระทั่งปัจจุบันที่เราขยายธุรกิจไปยังตลาดวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยเริ่มปักธงที่ยุโรปในประเทศสเปนเป็นที่แรก นี่คือเส้นทางคร่าว ๆ ที่ผ่านมา ซึ่งก็ได้เห็นโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ที่เราเติบโตต่อยอดมาเรื่อย ๆ “

มองหาโอกาส ร่วมกันเรียนรู้ เพื่อนวัตกรรมที่ตอบโจทย์

ความท้าทายในปัจจุบันของพี่กรัณย์คือ การหา innovation มาตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภค นอกจากจะโฟกัสกับสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ดูแลอยู่แล้ว ยังต้องมีหูตาที่กว้างไกล มองหาสิ่งใหม่ ๆ รอบตัวไปพร้อมกันด้วย

“การที่เราต้องหา innovation มาตอบโจทย์ผู้บริโภคตลอดเวลาเราจึงต้องพยายามสังเกตลูกค้า อย่ายึดติดกับสิ่งที่เราทำอยู่เท่านั้นหรืออย่าคิดว่าเราจะคิดเพิ่มต่อจากลูกค้ามิได้ เพราะในที่สุดพวกเราทุกคนก็คือ consumer เหมือนกัน เป้าหมายมันจะไปบรรจบกันตรงปลายทางที่เรียกว่า consumer และให้เราลองมองในมุมของ consumer เพิ่มด้วยว่าเราจะต้องการ innovation แบบไหน และมีใครตอบโจทย์เรื่องนี้แล้วหรือยัง การที่จะคิดไปจนถึงปลายทางนั้น ต้องช่วยกันทั้งองค์กร ทุกคนต้องช่วยกันคิด พยายามศึกษา ต้องสร้างให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ หรือ learning organization ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ผิดพลาด เรื่องที่สำเร็จ หรือเรื่องใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ ที่อาจจะตอบโจทย์ลูกค้า เราจะต้องมีการแชร์กันให้แต่ละคนรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องน่าสนุกน่าสนใจ”

สร้างความเชื่อมั่น เปิดโอกาส ทดลองทำ

เมื่อก้าวขึ้นมาดูแลงานบริหาร การสร้างความเชื่อมั่นให้ทีมและการเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นได้เสมอ คือหัวใจสำคัญในการบริหารงานของพี่กรัณย์

“สำหรับพี่ การบริหารคนต้องเริ่มจากการสร้าง trust เราต้องพยายามทำให้น้อง ๆ และทีมเห็นว่าเราวางใจได้ เชื่อถือได้ เราต้องไม่มีอคติ ต้องมีความยุติธรรมเท่าเทียมกันทั้งหมด พร้อมให้โอกาสอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องและทั่วถึง

“ทุกคนสามารถออกความเห็น ถกเถียงกันได้ ซึ่งพี่ให้ความสำคัญมากเพราะบ่อยครั้งในองค์กรใหญ่มีลำดับชั้นเยอะ หัวหน้าจะสั่งอย่างเดียวเถียงไม่ค่อยได้ บางเรื่องที่น้องในทีมแสดงความเห็น และเรารู้สึกว่ายังไม่ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็ปล่อยให้เขาลองทำ ถ้ามันยังไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย ต้องให้เขาได้ลอง เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ผมให้ความสำคัญ”

ขับเคลื่อนองค์กร ด้วยการเป็นเจ้าของร่วมกัน

“เราเป็นบริษัทมหาชนที่ทุกคนมีความเป็นเจ้าของเหมือนกัน อยากให้น้อง ๆ ทำงานเต็มที่เสมือนเป็นเจ้าของ นี่คือความท้าทายโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนเจเนอเรชันใหม่ ที่มีความคิดอยากเป็นเจ้าของกิจการตัวเอง

“วัฒนธรรมที่เราพยายามสร้างขึ้นคือ อยากให้ทุกคนทำงานแบบ collaborate ช่วยกันทำเสมือนว่าตัวเองเป็นเจ้าของ อันนี้สำคัญมากเพราะจะทำให้เกิดความทุ่มเท เรียนรู้ และสะสมองค์ความรู้ในระยะยาว การที่เราจะ excellence ในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ไม่ใช่ว่าจะทำได้ภายในเวลาอันสั้น มันต้องสะสม ถ้าเรารู้สึกว่าเราเป็นเจ้าของแล้ว เราจะทุ่มเทช่วยให้องค์กรเราเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไปได้

“อยากให้น้อง ๆ พยายามเรียนรู้และศึกษา ปัจจุบันนี้ช่องทางในการหาข้อมูลก็ง่าย และมีหลายช่องทาง ลองศึกษาเรื่องต่าง ๆ ด้วยตัวเอง ควบคู่ไปกับความรู้ที่บริษัทสนับสนุนให้ ทุกคนต้องตระหนักว่า หากวันหนึ่งเราเป็นเจ้าของกิจการของตัวเอง วันนั้นไม่มีใครมาสอนแล้ว หมั่นตั้งคำถามว่า ทำไมต้องทำแบบนี้ ทำไมไม่ทำอย่างนั้น เพื่อฝึกคิด หาคำตอบเพื่อให้ได้เหตุผลที่แท้จริง ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอด วันนี้เราอาจจะมีวิธีที่ดีกว่า ไม่ต้องใช้วิธีเดิมแล้วก็ได้ เราต้องพร้อมปรับอยู่เสมอ” พี่กรัณย์กล่าวทิ้งท้าย

Leave a comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *