SCGP Newsroom

SCGP ได้รับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ครอบคลุมทุกกลุ่มสินค้าบรรจุภัณฑ์กระดาษ พร้อมร่วมมือลูกค้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในผลิตภัณฑ์ ส่งเสริมสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน

SCGP ได้รับการรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ในผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศไทย ที่สามารถระบุปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ครอบคลุมกลุ่มสินค้าเยื่อกระดาษ กระดาษพิมพ์เขียน กระดาษบรรจุภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์กระดาษ บรรจุภัณฑ์อาหาร และบรรจุภัณฑ์พลาสติก เพื่อสนับสนุนให้ลูกค้าได้ใช้บรรจุภัณฑ์ที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อโลกที่ยั่งยืนร่วมกัน

 

นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP เปิดเผยว่า SCGP เห็นถึงความสำคัญของการสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัทฯ ที่มุ่งสู่ Net Zero ในปี 2050 โดยมุ่งดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างมีคุณภาพไปพร้อมกับการพัฒนานวัตกรรมสินค้าเพื่อสิ่งแวดล้อม และดำเนินงานตามมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) เช่น สหภาพยุโรปที่กำหนดให้ต้องระบุปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากตัวสินค้า เพื่อส่งมอบบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้แก่ลูกค้า รวมถึงตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่ส่งเสริมสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน

 

ล่าสุด SCGP ได้รับการรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ผลิตในประเทศไทย ที่สามารถระบุปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ได้แก่ เยื่อกระดาษ กระดาษ กระดาษบรรจุภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์พลาสติก รวมทั้งสิ้น 109 ผลิตภัณฑ์ และได้รับการรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์จากกระบวนการพิมพ์และการขึ้นรูปบรรจุภัณฑ์กระดาษรวม 16 กระบวนการ ครอบคลุมทุกกลุ่มสินค้าบรรจุภัณฑ์กระดาษภายใต้การประเมินแบบ Cradle to Gate ส่วนกลุ่มสินค้ากระดาษถ่ายเอกสารและบรรจุภัณฑ์อาหาร (Fest) ได้รับการรับรองรวม 19 ผลิตภัณฑ์ ภายใต้การประเมินแบบ Cradle to Grave ซึ่งสามารถแสดงข้อมูลให้ผู้บริโภคได้ทราบว่า ตลอดวัฏจักรของผลิตภัณฑ์เหล่านั้นมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมาปริมาณเท่าไหร่ ตั้งแต่ขั้นตอนการได้มาซึ่งวัตถุดิบ กระบวนการผลิต การกระจายสินค้า การใช้งาน และการจัดการของเสียหลังจากหมดอายุการใช้งาน

 

การได้รับการรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์นี้ ถือเป็นเป้าหมายของ SCGP ในการร่วมมือกับลูกค้าเพื่อพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน ช่วยให้ลูกค้าสามารถดำเนินธุรกิจได้สอดคล้องกับมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมของภาครัฐที่มีการบังคับใช้มากขึ้นในหลายประเทศ ในขณะเดียวกัน การระบุปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ชัดเจนเป็นสิ่งที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจเลือกสินค้าที่ช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
 

Fest by SCGP ร่วมสนับสนุนบรรจุภัณฑ์อาหารในงานเทศนาธรรม 4 ภาค ทั่วไทย” ครั้งที่ 4 (หนกลาง) จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

Fest by SCGP ร่วมพิธีแสดงธรรมเทศนาในโครงการ “เทศนาธรรม 4 ภาค ทั่วไทย” ครั้งที่ 4 (หนกลาง) เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567  โดยนายกิตชัย ทัศนวิญญู Foodservice Packaging Solutions Manager บริษัทผลิตภัณฑ์กระดาษไทย จำกัด ใน SCGP เป็นผู้แทนเข้าร่วมพิธีแสดงธรรมเทศนาในโครงการ “เทศนาธรรม 4 ภาค ทั่วไทย” ครั้งที่ 4 (หนกลาง) เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และประชาชน เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2567 ณ Exhibition Hall 1-2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพมหานคร

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้โครงการทุนเล่าเรียนหลวง สำหรับพระสงฆ์ไทยจัดกิจกรรมโครงการ “เทศนาธรรม 4 ภาค ทั่วไทย” เพื่อเผยแพร่หลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนาในรูปแบบของการแสดงพระธรรมเทศนาในภูมิภาคต่าง ๆ ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ รวม 4 ครั้ง เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานผ้าไตรในการจัดกิจกรรม ครั้งละ 14 ไตร รวม 4 ครั้ง จำนวน 56 ไตร ถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ที่แสดงพระธรรมเทศนาและพระภิกษุสงฆ์ที่เจริญพระพุทธมนต์ 

โครงการ “เทศนาธรรม 4 ภาค ทั่วไทย” ครั้งที่ 1 ได้จัดขึ้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2567 ณ มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ครั้งที่ 2 จัดที่ภาคเหนือ เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ และครั้งที่ 3 จัดที่ภาคใต้ เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2567 ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา 

สำหรับโครงการ “เทศนาธรรม 4 ภาค ทั่วไทย” ครั้งที่ 4 (หนกลาง) เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 (ความหมายของ หนกลาง คือ ภาคกลาง) กิจกรรมช่วงเช้ามีการแสดงพระธรรมเทศนาโดยนักเทศน์ทุนเล่าเรียนหลวง การแสดงพระธรรมเทศนา และการแสดงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยมี นายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา องคมนตรี เป็นประธานในพิธี สำหรับกิจกรรมช่วงบ่าย ประกอบด้วย การเจริญพระพุทธมนต์ และการแสดงพระธรรมเทศนา โดยพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส โดยมี พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นประธานในพิธี  ภายในงานมีการให้บริการโดยการออกโรงทานสำหรับผู้เข้าร่วมงาน โดย Fest by SCGP ได้ร่วมสนับสนุนบรรจุภัณฑ์อาหารปลอดภัยเฟสท์เป็นจำนวน 50,000 ชิ้น อาทิเช่น บรรจุภัณฑ์ถ้วยลายช้าง ช้อนส้อมไม้ เป็นต้น เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้ใช้บรรจุภัณฑ์ที่สะอาดปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นับเป็นการช่วยรณรงค์และส่งเสริมด้านการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน และสร้างการเติบโตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
 

Fest Redi Pak คว้ารางวัลชนะเลิศ สุดยอดนวัตกรรมก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม จากงาน 7 Innovation Awards 2024

“Fest Redi Pak” คว้ารางวัลชนะเลิศ “สุดยอดนวัตกรรมก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม” จากงาน “7 Innovation Awards 2024” ซึ่งจัดโดยบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ด้วยผลิตภัณฑ์ “Fest Redi Pak ถาดเยื่อลอกได้” บรรจุภัณฑ์อาหารแช่เย็น อุ่นร้อน พร้อมทาน ย่อยสลายได้ภายใน 60 วัน 

ความสำเร็จครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Fest ที่ได้พัฒนาร่วมกับแบรนด์ Reo’s Deli (รีโอส์ เดลิ) โดยมุ่งเน้นให้ความสำคัญในการพัฒนานวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดย Fest Redi Pak ไม่เพียงแค่ตอบโจทย์การใช้งาน แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อผู้ประกอบการ ผู้บริโภค สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม

Fest ยังคงมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และร่วมสร้างโลกที่น่าอยู่ยิ่งขึ้น รางวัลนี้จึงเป็นแรงผลักดันสำคัญให้ Fest ก้าวต่อไปบนเส้นทางแห่งความยั่งยืนและนวัตกรรมเพื่อสังคม
 

ไปรษณีย์ไทย จับมือ SCGP และ LocoPack เปิดบริการสั่งผลิตกล่อง-ซอง on demand ช่วยเพิ่มมูลค่าสินค้า พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อย

กรุงเทพฯ 3 กรกฎาคม 2567 – ไปรษณีย์ไทย จับมือ SCGP และ LocoPack เปิดให้สั่งผลิตกล่อง-ซอง รูปแบบ on demand ช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs เกษตรกร ผู้จำหน่ายผลผลิตทางการเกษตร หรือสินค้าเกษตรแปรรูป และผู้ประกอบการเพาะเลี้ยงสัตว์สวยงาม

ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า “ไปรษณีย์ไทย ร่วมกับ บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP และ และบริษัทอินวีนิค จำกัด ในนาม LocoPack สนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs เกษตรกร ผู้จำหน่ายผลผลิตทางการเกษตร หรือสินค้าเกษตรแปรรูป และผู้ประกอบการเพาะเลี้ยงสัตว์สวยงาม ด้วยการรับสั่งผลิตกล่อง-ซอง เพื่อ Re-design หรือปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์ เพื่อกระตุ้นยอดขาย และเพิ่มความแข็งแรงให้กับสินค้าได้มากยิ่งขึ้น โดยใช้รูปแบบการสั่งผลิตแบบ on demand ซึ่งทำให้ผลิตกล่อง-ซองได้ตรงตามความต้องการของผู้ประกอบการมากที่สุด เพียงแจ้งความประสงค์ใช้บริการเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์จะติดต่อกลับ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการในทุกพื้นที่ และภายในเดือนกรกฎาคมนี้ทางไปรษณีย์ SCGP และ LocoPack จะเปิดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชิ้นแรก ได้แก่ กล่องทรงลูกบาศก์ (ขนาด 15x15x15 เซนติเมตร) ที่สามารถใช้บรรจุสัตว์เลี้ยงสวยงาม และสินค้าได้แข็งแรง ปลอดภัย พร้อมดีไซน์ที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า”

นายสุรศักดิ์ อัมมวรรธน์ Technology and Digital Platform Director บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP กล่าวว่า “SCGP มุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมสินค้า บริการ และโซลูชันด้านบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรที่หลากหลาย ควบคู่กับการดำเนินงานอย่างยั่งยืน และพร้อมให้ความร่วมมือกับพันธมิตรต่าง ๆ อย่างในครั้งนี้ ไปรษณีย์ไทย SCGP และ LocoPack มีเป้าหมายตรงกันในการร่วมมือกันมาออกแบบ พัฒนา ประชาสัมพันธ์ และดำเนินการผลิตบรรจุภัณฑ์ให้กับกลุ่มคู่ค้าและลูกค้าของไปรษณีย์ไทย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs และเกษตรกร ซึ่งมีจำนวนมากและเป็นกลุ่มที่เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งจะนำมาสู่การสร้างสรรค์พัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ช่วยยกระดับคุณภาพสินค้า และการเพิ่มมูลค่าด้านการตลาดให้กับสินค้าของลูกค้า และเกิดความยั่งยืนตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่า” 

นายเอกราช นิโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กิจการบรรจุภัณฑ์จากวัสดุสมรรถนะสูง บริษัทเอสซีจีแพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้จัดการ บริษัทอินวีนิค จำกัด ใน SCGP กล่าวว่า “บรรจุภัณฑ์ถือเป็นส่วนสำคัญในการปกป้องดูแลสินค้า รวมถึงการสะท้อนเอกลักษณ์ให้เกิดการจดจำและสร้างแบรนด์ให้กับสินค้า LocoPack ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มบริการออกแบบและผลิตบรรจุภัณฑ์ครบวงจรใน SCGP ที่มีเป้าหมายในการส่งเสริมผู้ประกอบการ ตั้งแต่ระดับ SME ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ ให้สามารถเข้าถึงและผลิตบรรจุภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของตนเองได้ตามต้องการในจำนวนเริ่มต้นที่ 100 ชิ้นในราคาที่จับต้องได้ จึงพร้อมให้ความร่วมมือกับไปรษณีย์ไทยที่จะนำความเชี่ยวชาญมาร่วมพัฒนาบรรจุภัณฑ์ ที่มุ่งเน้นความปลอดภัยของสินค้าและบริการ และการส่งมอบบรรจุภัณฑ์จนถึงมือผู้บริโภค ตลอดจนการสร้างเอกลักษณ์ผ่านบรรจุภัณฑ์เพื่อช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าของกลุ่มคู่ค้าและลูกค้าของไปรษณีย์ไทย”

สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจสั่งผลิตกล่อง-ซองในรูปแบบ on demand เพื่อ Re-packaging และเพิ่มมูลค่าให้สินค้า สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด หรือติดต่อฝ่ายการขายและการตลาด
บริการไปรษณีย์ โทร. 0-2831-3581

SCGP เปิดตัว Holis Pop-Up Store แห่งแรก มุ่งสร้างการมีส่วนร่วมและการเติบโตอย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา นายเอกราช นิโรจน์ Enterprise Marketing Director, SCGP ร่วมเปิดร้าน Holis Pop- Up Store สาขาแรกใจกลางสยามบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส

การเปิดตัว Holis Pop-Up Store ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการกระตุ้นการรับรู้ของแบรนด์ ที่สามารถโต้ตอบ พร้อมสร้างความผูกพันกับผู้บริโภคได้โดยตรง เพิ่มโอกาสในการขาย มุ่งสู่การเติบโตอย่างแข็งแกร่ง  

 
ทั้งนี้ Holis ฉลองเปิด Pop-Up Store สาขาแรก จัดโปรโมชัน ซื้อ 1 แถม 1 ทุกรายการ พร้อมลุ้นรับ MONSTER TEARS Cry Baby model  จาก POP mart วันละ 1 จุ่ม ตลอด 12 วัน หรือจนกว่าสินค้าจะหมด พบกันได้ที่ Holis Pop-Up Store ที่ BTS สถานีสยาม ทางออก 3  ฝั่งสยามพารากอน เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 – 19.00 น.

 

SCGP ลงทุนในวีอีเอ็ม (ไทยแลนด์) ต่อยอดกลยุทธ์ขยายการเติบโตธุรกิจบรรจุภัณฑ์ วัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์และอุปกรณ์สำหรับใช้ในห้องปฏิบัติการ

SCGP เข้าถือหุ้นร้อยละ 90 ในบริษัทวีอีเอ็ม (ไทยแลนด์) จำกัด หรือ “VEM-TH” เสริมความแข็งแกร่ง กลยุทธ์สร้างการเติบโตธุรกิจบรรจุภัณฑ์ วัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์และอุปกรณ์สำหรับใช้ในห้องปฏิบัติการ เพิ่มศักยภาพและต่อยอดการผลิตสินค้าของ Deltalab S.L. และ Bicappa Lab S.r.L. รองรับความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้น

 

นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP เปิดเผยเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ว่าบริษัทฯ ได้เข้าซื้อหุ้นร้อยละ 90 ในบริษัทวีอีเอ็ม (ไทยแลนด์) จำกัด (VEM-TH) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนสมรรถนะสูงจากการฉีดขึ้นรูปพอลิเมอร์ โดยมีมูลค่าลงทุนไม่เกิน 4.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 146.2 ล้านบาท และจะเริ่มแสดงผลประกอบการของ VEM-TH ในงบการเงินรวมตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2567 

 

การลงทุนในรูปแบบการเติบโตผ่านความร่วมมือกับพันธมิตร ( Merger and Partnership: M&P) นี้ เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การขยายธุรกิจบรรจุภัณฑ์ วัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์และอุปกรณ์สำหรับใช้ในห้องปฏิบัติการของ SCGP เพื่อตอบสนองความต้องการใช้สินค้าที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้ได้เข้าลงทุนใน Deltalab S.L. ผู้เชี่ยวชาญการผลิตและจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์จากประเทศสเปน และ Bicappa Lab S.r.L ผู้เชี่ยวชาญการผลิตอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ปิเปตต์ทิปจากประเทศอิตาลี โดย VEM-TH มีฐานการผลิตในจังหวัดระยอง ประกอบด้วยสายการผลิตสินค้ารวม 30 สายการผลิต ที่มีมาตรฐานระบบบริหารงานคุณภาพสำหรับเครื่องมือแพทย์ (ISO 13485) และห้องปลอดเชื้อที่ผ่านมาตรฐานรับรองความสะอาดของอากาศ (Cleanroom) Class 8 และ Class 7 ผลิตสินค้าคุณภาพสูงกว่า 59 ล้านชิ้นต่อปี โดยในปี 2566 VEM-TH มีรายได้ประมาณ 302 ล้านบาท รวมถึงมีสินทรัพย์ 455 ล้านบาท 

 

VEM-TH มีฐานลูกค้าที่เติบโตอย่างรวดเร็วในอุตสาหกรรมการแพทย์ การบิน ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์ ซึ่งครอบคลุมตลาดหลากหลายประเทศ อาทิ ไทย สหรัฐอเมริกา และจีน VEM-TH จะช่วยเพิ่มศักยภาพการผลิตสินค้าของ Deltalab S.L. และ Bicappa Lab S.r.L. เพื่อรองรับความต้องการและส่งเสริมให้ SCGP สามารถขยายเครือข่ายลูกค้าในต่างประเทศได้อย่างแข็งแกร่งและครอบคลุมยิ่งขึ้น
 

SCGP Recycle จับมือ กลุ่มสยามสินธรตั้งจุดรับกระดาษรีไซเคิล

          เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก  Velaa Sindhorn Village Langsuan ร่วมกับ SCGP Recycle ตั้งจุดรับกระดาษรีไซเคิล เพื่อให้ทุกคนมั่นใจว่ากระดาษที่บริจาค จะเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลอย่างถูกต้อง ส่งเสริมให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อม ร่วมกันสร้างความยั่งยืน

          กลุ่มสยามสินธร จัดงาน “กรีนดี อยู่ดี” วันที่ 26 – 30 มิถุนายน 2567 ที่โครงการ เวลา หลังสวน ส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติและรีไซเคิล ชวนทุกคนสร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่อโลกที่ดีขึ้น เปิดพื้นที่ซื้อขายใจกลางเมือง ชวนช้อปผลผลิตคุณภาพ สร้างรอยยิ้ม เพิ่มรายได้เกษตรชุมชน ทั้งผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ อาหารและเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพ เครื่องนุ่งห่มจากเส้นใยธรรมชาติและวัสดุรีไซเคิล และของตกแต่งบ้านจากวัสดุธรรมชาติ เช่น เส้นหวาย ไม้ไผ่ รวมถึงส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน โดย SCGP Recycle ร่วมตั้ง Drop Box ที่โครงการ เวลา หลังสวน ชั้น G รับกระดาษเหลือใช้ทุกชนิด เพื่อนำไปรีไซเคิลอย่างถูกต้องและได้มาตรฐานตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน 

Rengo & SCGP แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ด้าน Digital Transformation ต่อยอดยกระดับการดำเนินงาน

ทีมผู้บริหารจากบริษัท Rengo นำโดย Mr.Hideyuki Kashiwagi, Executive Officer Paper Business Unit เข้าเยี่ยมชมบริษัทสยามคราฟท์อุตสาหกรรม จำกัด โรงงานวังศาลาและโรงงานบ้านโป่ง โดยคุณวิชาญ เจริญกิจสุพัฒน์ Chief Operating Officer, Packaging Paper Business นำทีมผู้บริหารต้อนรับ

 

ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อหารือและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้าน Digital Transformation ของ Rengo และ SCGP ในการนำเทคโนโลยี Digital มาประยุกต์ใช้ในธุรกิจในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้าน Safety, Paper Manufacturing, Energy Operations, Maintenance, Logistics & Warehouse Management และ Environmental Monitoring

 

ความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นการต่อยอดเพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการดำเนินงานในหลายด้าน โดยคุณเอกราช นิโรจน์ Enterprise Marketing Director คุณสหรัฐ พัฒนวิบูลย์ Wangsala Mill Director คุณสุทธิพงษ์ ภูมิศรีสอาด Banpong Mill Director คุณธีรชัย ชวพงษ์พานิช Energy Director คุณมานิตย์ ศิริวรศิลป์ Asset Performance Management Director และทีมที่เกี่ยวข้องร่วมหารือและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกัน 

BATICO คว้า 2 รางวัลจาก Vietnam Packaging Award 2024

เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา บริษัท Tin Thanh Packing Joint Stock Company หรือ BATICO นำโดย คุณพยุงศักดิ์ สกุลรุจา General Director – BATICO เป็นตัวแทนเข้ารับรางวัล ในงาน Vietnam Packaging Award 2024 จัดขึ้นโดยสมาคมบรรจุภัณฑ์เวียดนาม (Vietnam Packaging Associations) ณ ศูนย์แสดงนิทรรศการนานาชาติ WTC Expo International Exhibition Center, Binh Duong ประเทศเวียดนาม 

 

BATICO ได้รับรางวัลทั้งสิ้น 2 รางวัล ได้แก่ รางวัล Excellence Award in Flexible Packaging จากโครงสร้าง MDO25u/LLDPE160u ของสินค้าน้ำยาล้างมือ (Washing hand liquid) และรางวัล Innovative Packaging Award for Flexible Packaging จากโครงสร้าง PET12u/LLDPE125u ของสินค้าผงรำข้าวสำหรับเป็นอาหารไก่ 

 

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจัดแสดงสินค้านวัตกรรมสินค้าที่โดดเด่น อย่าง Digimarc barcode เทคโนโลยีป้องกันการปลอมแปลงที่สามารถตรวจสอบได้ผ่าน Application 

SCGP มอบเกียรติบัตรให้แก่คู่ธุรกิจในงาน Business Partner Safety Recognition 2023 เสริมสร้างความร่วมมือด้านความปลอดภัยไปด้วยกัน

คณะกรรมการบริหารจัดการด้านความปลอดภัยของคู่ธุรกิจ และคณะกรรมการความปลอดภัยในการขนส่ง SCGP นำโดยคุณวิชาญ เจริญกิจสุพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กิจการกระดาษบรรจุภัณฑ์ มอบเกียรติบัตรแก่คู่ธุรกิจในงาน Business Partner Safety Recognition 2023 เพื่อรณรงค์ สนับสนุน และส่งเสริมการมีส่วนร่วมด้านความปลอดภัยของคู่ธุรกิจรายสัญญา คู่ธุรกิจงานขนส่ง ที่มีผลการทำกิจกรรมด้านความปลอดภัยของคู่ธุรกิจ ตั้งแต่เดือน มกราคม – ธันวาคม 2566 ผ่านตามเกณฑ์ของโครงการ Contractor และ Transportation’s Contractor Safety Recognition และมติของคณะกรรมการด้านความปลอดภัย SCGP โดยมีคู่ธุรกิจผ่านเกณฑ์การประเมินจำนวน 77 ราย กลุ่มคู่ธุรกิจรายสัญญา 38 รางวัล กลุ่มงานขนส่ง 39 รางวัล แบ่งเป็นรางวัลระดับ Platinum 16 รางวัล ระดับ Gold 20 รางวัล ระดับ Silver 20 รางวัล และระดับ Bronze 21 รางวัล  

 

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีเวทีแลกเปลี่ยนทิศทางการบริหารจัดการด้านความปลอดภัย ในสถานที่ปฏิบัติงานและงานขนส่งของ SCGP และคู่ธุรกิจ นำโดย คุณมานิตย์ ศิริวรศิลป์ Asset Performance Management Director คุณบุญชู ปัญจรัตนากร  Logistics Management Department Manager ร่วมกับตัวแทนจากคู่ธุรกิจที่ได้รับรางวัลในระดับ Platinum เพื่อเป็นแนวทางและตัวอย่างในการสร้างมาตรฐานในการทำงานด้านความปลอดภัยที่ดี  

 

ทั้งนี้ SCGP มุ่งหวังให้คู่ธุรกิจตระหนักและใส่ใจเรื่องความปลอดภัยไปด้วยกัน เพราะความปลอดภัยเป็นเรื่องที่เราต้องให้ความสำคัญ และช่วยกันดูแลทุกที่ ทุกเวลา (Safety Everywhere, Every Time) เพื่อตัวเรา ครอบครัว และคนรอบข้าง ร่วมสร้างให้เป็นวัฒนธรรมด้านความปลอดภัย ห่วงใยซึ่งกันและกัน หรือ “Care for All”