SCGP Newsroom

SCGP X THINKK STUDIO “TRANSFORMATION” WASTE TO VALUE เพิ่มมูลค่างานดีไซน์จากวัสดุเหลือใช้

SCGP ดำเนินธุรกิจตามกรอบแนวคิด ESG (Environmental, Social, and Governance) และหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการทำงานที่จะสามารถลดการใช้ทรัพยากร การเลือกใช้วัสดุที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ และการนำรัพยากรกลับมาใช้ใหม่ในรูปแบบต่าง ๆ ตามแนวทางที่เรียกกันว่า Upcycle โดยนำวัสดุเหลือใช้มาผ่านกระบวนการออกแบบและสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่แตกต่าง และสร้างมูลค่าเพิ่มควบคู่ไปกับการส่งเสริมโครงการพัฒนาวิสาหกิจชุมชน

 

จากแนวคิดดังกล่าว จึงเป็นที่มาของความร่วมมือระหว่าง SCGP กับ THINKK Studio พันธมิตรที่มีปรัชญาการทำงานที่สอดคล้องกันในเรื่อง ESG และ Circular Economy ร่วมกันจัดกิจกรรม TRANSFORMATION” Waste to Value Workshop เพื่อส่งเสริมพฤติกรรมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และการนำแนวคิด Upcycling มาใช้ เปลี่ยนวัสดุเหลือใช้ให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งชักชวนวิสาหกิจชุมชนด้านหัตถกรรมจากชุมชนรอบโรงงานในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี ปราจีนบุรี และขอนแก่น รวมถึงกลุ่มอาจารย์และนักศึกษาด้านการออกแบบและวัสดุศาสตร์ มาร่วมเวิร์กช็อปแบ่งปันไอเดียและทดลองสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ จากวัสดุเหลือใช้ของ SCGP

 

“‘TRANSFOR MATION” Waste to Value Workshop

กิจกรรมเวิร์กช็อป “TRANSFORMATION” Waste to Value เต็มไปด้วยความสนุกสนานและบรรยากาศของการจุดประกาย ไอเดีย โดยการนำวัสดุเหลือใช้จาก SCGP 4 ชนิด ทั้งเส้นเทป เปลี่ยนม้วนกระดาษหรือ Paper Band เส้นพลาสติกรีไซเคิลจากกระบวนการเป่าขวดพลาสติก หลอดพลาสติก และพลาสติกรีไซเคิลบด มาออกแบบเป็นผลิตภัณฑ์ที่สวยงาม มีมูลค่าเพิ่มด้วยการต่อยอดไอเดียสุดเจ๋งจากมืออาชีพอย่าง THINKK Studio

 

โดยทีมนักออกแบบจาก THINKK Studio มาร่วมสร้างการเรียนรู้ ผ่านกระบวนการคิด ทดลอง และออกแบบ เพื่อแปลงร่างเศษวัสดุ ทั้ง 4 ชนิด เริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจคุณสมบัติของวัสดุที่แตกต่างกัน เช่น Paper Band กับเส้นพลาสติกรีไซเคิล เหมาะกับการขึ้นรูปด้วยการสานและขัดตามแบบหัตถกรรมไทย ส่วนหลอดพลาสติกทรงกระบอกเหมาะกับการจับได้ถนัดมือ หรือพลาสติกบด เมื่อนำมาหลอมลงในแม่แบบ ก็จะเกิดเป็นแผ่นลักษณะคล้ายถาดที่มีพื้นผิวแข็งแรง

 

จากวัสดุเหลือใช้ที่มีคุณสมบัติแตกต่างหลากหลาย THINKK Studioได้ทดลองขึ้นรูปด้วยกระบวนการต่าง ๆ ออกมาเป็นต้นแบบผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานในชีวิตประจำวัน 6 ชิ้น ได้แก่ แจกัน โคมไฟ กระเป๋าถือ(Handbag) ถาด พัด และกระเป๋า Tote Bag โดยให้ผู้เข้าร่วมเวิร์กช็อปลองลงมือทำไปด้วยกัน พร้อมทั้งเพิ่มความสนุก โดยให้วิสาหกิจชุมชนและนักศึกษานำถุงพลาสติกเหลือใช้มาผ่านความร้อนจนได้แผ่นพลาสติกบาง ๆ เพื่อใช้เป็นวัสดุตกแต่ง เพิ่มสีสันและเอกลักษณ์ให้งานออกแบบของแต่ละคนมีความหลากหลายและมีลักษณะเฉพาะตัวมากยิ่งขึ้น

 

THINKK Studio – Think Circular

คุุณเดชา อรรจนานันท์ Creative Director และ Co-Founder ของ THINKK Studio หัวหน้าทีมในการออกแบบ Workshop ในครั้งนี้ ได้ฝากข้อคิดและมุมมองเกี่ยวกับการเพิ่มมูลค่าให้วัสดุเหลือใช้ว่า

 

“การชุบชีวิตให้วัสดุเหลือใช้มีมูลค่าเพิ่ม ต้องอาศัยทัศนคติและความคิดสร้างสรรค์ของนักออกแบบ เพื่อมองผลลัพธ์ปลายทางให้ออกว่า จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ไปในรูปแบบไหน ผ่านกระบวนการคิด สัมผัส และทดลองหาความเป็นไปได้ของวัสดุนั้น ๆ โดยไม่มีกรอบจำกัด อย่างที่ THINKK Studio ทดลองกับวัสดุเหลือใช้ของ SCGP ในเวิร์กช็อปครั้งนี้ ซึ่งทีมมองว่าประสบความสำเร็จและได้รับผลตอบรับที่ดีจากผู้เข้าร่วมเป็นโอกาสดีที่ได้แลกเปลี่ยนมุมมองความคิดสร้างสรรค์และทักษะ ระหว่างนักศึกษาที่มีไอเดียสดใหม่กับวิสาหกิจชุมชนที่ถนัดงานฝีมือเป็นอย่างดี จนทำให้ทุกฝ่ายได้แรงบันดาลใจกลับไปต่อยอดงานออกแบบของตัวเองได้อย่างเต็มเปี่ยม

 

“การเพิ่มมูลค่าให้วัสดุเหลือใช้สามารถเริ่มได้จากตัวเราทุกคนเช่น การใช้ทักษะงานฝีมืออย่างง่าย ๆ ออกแบบของเหลือใช้หรือขยะในครัวเรือนให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น และสามารถต่อยอดไปถึงระดับชุมชนที่ต้องคำนึงถึงกระบวนการทิ้งและจัดเก็บขยะ การส่งต่อเพื่อแปรรูป หรือในระดับอุตสาหกรรมสามารถสร้างเครือข่ายความร่วมมือไปยังภาคเอกชน รัฐบาลรวมถึงหน่วยงานวิจัยต่าง ๆ ได้อีกด้วย

 

“โดยสิ่งสำคัญในเรื่องนี้คือ ทำอย่างไรให้งานออกแบบจากวัสดุเหลือใช้มีประสิทธิภาพการใช้งานที่ดี ไม่แพ้งานออกแบบชิ้นใหม่ และกลมกลืนกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ในท้ายที่สุดแนวคิดเรื่อง Upcycling ไม่ควรถูกมองว่าเป็นเพียงกระแสชั่วคราว แต่เป็นตัวแปรสำคัญที่จะกำหนดทิศทางการออกแบบผลิตภัณฑ์ โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและอนาคตของโลกให้มากที่สุดนั่นเอง”

 

SCGP คว้า 2 รางวัล SET AWARDS 2022 สร้างสรรค์นวัตกรรมยอดเยี่ยมและต้นแบบองค์กรยั่งยืน

SCGP นำโดย นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ นายดนัยเดช เกตุสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงิน รับรางวัลจากเวที “SET Awards 2022” ซึ่งจัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในกลุ่มรางวัล Business Excellence ประเภท Best Innovative Company Awards จากนวัตกรรมเส้นใยนาโนเซลลูโลส เพื่ออุตสาหกรรมกระดาษบรรจุภัณฑ์ ซึ่งเป็นนวัตกรรมทางวัสดุชีวภาพขั้นสูงที่ช่วยให้กระดาษแข็งแรงขึ้น แต่มีน้ำหนักเบา ช่วยเพิ่มมูลค่าการใช้เส้นใยจากพืช และส่งมอบคุณค่าตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในด้านการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน และกลุ่มรางวัล Sustainability Excellence ประเภท Best Sustainability Awards ที่มีการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ด้วยการลงทุนด้าน Green Technology เพื่อผลิตบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การเป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนในการรวบรวมกระดาษใช้แล้วเพื่อนำมารีไซเคิลกลับมาใช้ใหม่ รวมถึงมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี คำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสีย พร้อมเติบโตด้านเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งทั้งสองรางวัลนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ SCGP ในการมีส่วนช่วยยกระดับมาตรฐาน และสร้างการเติบโตของเศรษฐกิจ สังคมและโลกได้อย่างยั่งยืนจนเป็นที่ยอมรับจากนักลงทุนไทยและต่างชาติ พิธีมอบจัดขึ้นในวันที่ 28 ตุลาคม 2565 ณ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

Green Read by SCGP รับมอบโล่สนับสนุนงานมหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 27 จากผู้ว่าฯ กทม.

นายสุชัย กอประเสริฐศรี ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กิจการเยื่อกระดาษ บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP รับมอบโล่จาก นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เนื่องในโอกาสที่ SCGP สนับสนุนการจัดงานมหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 27 ภายใต้แนวคิด BOOKTOPIA : มหานครนักอ่าน เพราะการอ่านคือจุดเริ่มต้นของการสร้างเมือง เพื่อร่วมส่งเสริมให้เกิดการอ่านอย่างต่อเนื่องและกระตุ้นให้นักอ่านทุกเพศทุกวัยได้เลือกสรรหนังสือคุณภาพ เล่มโปรดภายในงานเดียว พร้อมออกบูธ Green Read by SCGP โดยร่วมกับพันธมิตรผู้แทนจำหน่ายและสำนักพิมพ์ซึ่งเป็นลูกค้าของกระดาษถนอมสายตา จัด Green Read Lounge ให้นักอ่านร่วมสนุกกับกิจกรรมทำสมุดโน้ต ห่อปกกระดาษ และพับเครื่องบินกระดาษ เพื่อเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ ณ ฮอลล์ 7 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อเร็ว ๆ นี้

SCGP ทำรายได้ 9 เดือนแรก 112,559 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 26 มุ่งกลยุทธ์ขยายธุรกิจศักยภาพสูง เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต พัฒนานวัตกรรมและ ESG

SCGP เผยผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2565 เป็นที่น่าพอใจ ทำรายได้จากการขาย 9 เดือนแรกของปีเท่ากับ 112,559 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 26 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เติบโตต่อเนื่อง ผลจากการควบรวมกิจการกับพันธมิตรชั้นนำศักยภาพสูง (Merger & Partnership : M&P) และการพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานตลอดห่วงโซ่อุปทาน มองเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวจากโควิด 19 ที่คลี่คลาย เดินหน้าวิจัยและพัฒนานวัตกรรมและโซลูชันด้านบรรจุภัณฑ์ต่อเนื่อง พร้อมผนึกกำลังเสริมแกร่งกับบริษัทพันธมิตร ขยายฐานลูกค้าไปยังตลาดใหม่ที่เติบโตสูง ควบคู่กับขับเคลื่อน ESG 4 Plus เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน

นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP เปิดเผยถึงผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2565 มีรายได้จากการขาย 112,559 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 26 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องภายใต้กลยุทธ์การควบรวมกิจการกับพันธมิตร (M&P) รวมถึงความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่เพิ่มขึ้นภายหลังที่มีการเปิดประเทศและสถานการณ์โควิด 19 เริ่มคลี่คลาย และมี EBITDA เท่ากับ 15,848 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กำไรสำหรับงวด 5,351 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 13 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นและราคาพลังงานที่ยังอยู่ในระดับสูง

สำหรับไตรมาสที่ 3 ของปี 2565 SCGP มีรายได้จากการขาย 37,943 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 19 มี EBITDA อยู่ที่ 5,483 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 และกำไรสำหรับงวด 1,837 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากราคาขายสินค้าที่สะท้อนต้นทุน ราคาเยื่อที่สูงขึ้นและความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ของกลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่มและสินค้าอุปโภคบริโภคในภูมิภาคอาเซียนที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการขยายธุรกิจจากการควบรวมกิจการบริษัทรีไซเคิลวัสดุบรรจุภัณฑ์ Peute Recycling B.V. (Peute) ประเทศเนเธอร์แลนด์ และ Jordan Trading Inc. (Jordan) สหรัฐอเมริกา 

ภาพรวมของเศรษฐกิจอาเซียนช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 จนถึงต้นปี 2566 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการบริโภคภายในประเทศ การเดินทางระหว่างประเทศ รวมถึงภาคการท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัว ทำให้มีความต้องการสินค้าที่จำเป็นสำหรับการบริโภค เช่น กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงสินค้าอุปโภคอื่น ๆ สำหรับเทศกาลต่าง ๆ ในช่วงสิ้นปี  ซึ่งธุรกิจบรรจุภัณฑ์ถือเป็นส่วนสำคัญที่จะตอบสนองความต้องการซื้อสินค้าของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น สำหรับด้านการส่งออกของอาเซียน ยังคงได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ทำให้ความต้องการสินค้าคงทนลดลง รวมถึงเศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัวช้า ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ในภูมิภาคอาเซียน ขณะที่ราคาพลังงานทั่วโลกยังทรงตัว อย่างไรก็ตาม ค่าขนส่งและต้นทุนวัตถุดิบ โดยเฉพาะวัตถุดิบกระดาษรีไซเคิล (Recovered Paper : RCP) มีการปรับตัวลดลงในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2565 

ทั้งนี้ SCGP มั่นใจว่า ในปี 2565 จะมีรายได้จากการขาย 150,000 ล้านบาทตามเป้าหมาย พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์เพื่อรักษาการเติบโตอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน ได้แก่

1. มุ่งการเติบโตด้วย M&P ผสานความร่วมมือเสริมแกร่งธุรกิจ (Synergy) ทั้งด้านการขยายฐานลูกค้า ส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการ ที่ตอบรับความต้องการที่หลากหลายและครอบคลุม การแลกเปลี่ยนเทคโนโลยี การพัฒนานวัตกรรมด้านโซลูชันบรรจุภัณฑ์ การจัดหาวัตถุดิบร่วมกัน และร่วมกันพัฒนาช่องทางขยายลูกค้าไปยังภูมิภาคใหม่ ๆ ที่มีโอกาสเติบโตสูง อย่างการลงทุนใน Jordan เมื่อไตรมาสที่ 3 นี้ จากแผนการดำเนินธุรกิจ SCGP จะผสานการดำเนินงานร่วมกันระหว่าง Jordan และ Peute เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการขยายฐานการจัดหาวัตถุดิบรีไซเคิลในต่างประเทศ ทำให้สามารถเข้าถึงแหล่งวัตถุดิบกล่องกระดาษใช้แล้วคุณภาพสูงในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักที่ช่วยเพิ่มคุณภาพกระดาษบรรจุภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์จากเยื่อและกระดาษได้โดยตรง อีกทั้งยังช่วยเพิ่มการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในการดำเนินธุรกิจของ SCGP ให้กับเครือข่ายรีไซเคิลในภูมิภาคอาเซียน Peute ในยุโรป และ Jordan ในสหรัฐอเมริกา เพื่อยกระดับขีดความสามารถการดำเนินงานต่อไปได้ด้วย

2. บริหารต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต (Operational excellence) พร้อมพัฒนานวัตกรรม เพิ่มโซลูชันด้านบรรจุภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ดำเนินการบริหารจัดการเงินสด งบประมาณการลงทุน (CAPEX) และการพิจารณาลงทุนตามกลยุทธ์อย่างเป็นระบบ รอบคอบ รัดกุม รวมทั้งการเพิ่มความสามารถและศักยภาพในการจัดการภายในองค์กรที่สอดคล้องกับการเติบโตของธุรกิจและการบริหารความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น อีกทั้งยังมีการพัฒนาปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งพัฒนานวัตกรรมและโซลูชัน ด้วยงบประมาณวิจัยและพัฒนาร้อยละ 0.3 ของรายได้ใน 9 เดือนแรกของปีนี้ รวมทั้งร่วมมือกับพันธมิตรในการส่งมอบนวัตกรรมและโซลูชันที่ตอบโจทย์ลูกค้าและผู้บริโภค โดยล่าสุด SCGP ร่วมกับ 3 พันธมิตรผู้จัดจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ชั้นนำของไทย เพื่อนำผลิตภัณฑ์วัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์จาก Deltalab ขยายตลาดในประเทศและภูมิภาคอื่น ๆ เพื่อรองรับเทรนด์สุขภาพที่เติบโตสูง

3. ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยแนวคิด ESG 4 Plus เพื่อโลกที่ยั่งยืน ได้แก่ (1) มุ่งสู่ Net Zero ที่ดำเนินงานตามแผน เพื่อก้าวสู่เป้าหมายในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2593 (2) Go Green การเพิ่มสัดส่วนบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสามารถรีไซเคิลหรือย่อยสลายได้ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 99.7 ของปริมาณการผลิตทั้งหมด (3) Lean เหลื่อมล้ำ การส่งเสริมด้านการศึกษาและอาชีพ เช่น จัดประกวดการออกแบบบรรจุภัณฑ์ระดับอุดมศึกษา เพื่อส่งเสริมความรู้ด้านการออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 7 และ (4) ย้ำร่วมมือ SCGP ร่วมกับพันธมิตรนำกระดาษใช้แล้วมาหมุนเวียนนำกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า อีกทั้งยังได้ร่วมกับอำเภอบ้านโป่ง จัดโครงการชุมชน Like (ไร้) ขยะ ส่งเสริมชุมชนปลอดขยะกว่า 86 ชุมชน ฯลฯ

จากการดำเนินงานเพื่อความยั่งยืน ทำให้ล่าสุด SCGP ได้ติดรายชื่อหุ้นยั่งยืน หรือ SET THSI Index เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ SCGP ในการดำเนินธุรกิจตามกรอบแนวคิด ESG เพื่อเพิ่มศักยภาพและความแข็งแกร่งของธุรกิจได้อย่างยั่งยืน
 

มูลนิธิเอสซีจี ร่วมกับ SCGP ส่งความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดขอนแก่น

มูลนิธิเอสซีจี ร่วมกับ บริษัทฟินิคซ พัลพ แอนด์ เพเพอร์ จำกัด (มหาชน) ใน SCGP ส่งมอบสุขากระดาษจำนวน 500 ชุด พร้อมถุงยังชีพ และเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอเมือง อำเภอน้ำพอง และอำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ที่ได้รับผลกระทบจากพายุโนรู ทำให้ฝนตกหนักและปริมาณน้ำจากแม่น้ำชีสูงเข้าท่วมพื้นที่มานานกว่า 3 สัปดาห์ ซึ่งฟินิคซฯ ยังคงลงพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลือและดูแลชุมชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งแรงกายและแรงใจให้กับผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่

บริษัทสยามคราฟท์อุตสาหกรรม จำกัด ใน SCGP คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2565 เป็นเลิศด้านการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น ประเภทการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม ประจำปี พ.ศ. 2565 แก่ อำไพ คงคา ผู้จัดการส่วนงานประกันการจัดการสิ่งแวดล้อม บริษัทสยามคราฟท์อุตสาหกรรม จำกัด ใน SCGP ซึ่งเป็นรางวัลอันทรงคุณค่าจากความทุ่มเทในการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมตามแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนและ ESG 4 Plus และมุ่งปรับปรุงกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง เน้นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและระบบการจัดการวัสดุเหลือใช้จนเกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงมีการร่วมมือกับทุกส่วนดูแลช่วยเหลือสังคมและสิ่งแวดล้อมผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมของประเทศ ส่งเสริมสังคมที่น่าอยู่ และสร้างสิ่งแวดล้อมยั่งยืน โดยพิธีมอบรางวัลจัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล

SCGP ผนึกพันธมิตรชั้นนำ ให้เป็นผู้แทนจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์

SCGP จับมือ 3 พันธมิตรผู้จัดจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ชั้นนำ ส่งมอบนวัตกรรมและโซลูชันสินค้าวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ ตอบรับความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคด้านสุขภาพและการแพทย์ในไทยและภูมิภาคอาเซียนที่เพิ่มสูงขึ้น ช่วยเพิ่มโอกาสผู้บริโภคเข้าถึงวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์คุณภาพสูง มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตและสาธารณสุขไปพร้อมกับเสริมศักยภาพการเติบโตของธุรกิจ 

 

นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP 
เปิดเผยว่า ปีที่ผ่านมา SCGP ได้เข้าลงทุนใน Deltalab, S.L. (Deltalab) ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตและจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ชั้นนำในประเทศสเปน อันเป็นก้าวสำคัญของ SCGP ในการเข้าสู่ตลาดวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่มาช่วยเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจ ทั้งด้านการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนา และการส่งมอบผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง มายังตลาดในอาเซียน  ที่ลูกค้าใส่ใจต่อการดูแลสุขภาพสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย ที่กำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ  รวมถึงนโยบายของภาครัฐที่ผลักดันเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ของภูมิภาค 

 

 ดังนั้น เพื่อให้สามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์ถึงมือลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ SCGP จึงผนึกกำลังกับ 3 พันธมิตรผู้จัดจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ชั้นนำของประเทศไทยที่มีเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่งและเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและการแพทย์  ได้แก่ บริษัทเมดิทอป จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ เครื่องมือการวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการและเครื่องมือวิทยาศาสตร์ชั้นนำของประเทศไทย ที่มีประสบการณ์ด้านเครื่องมือแพทย์กว่า 37 ปี เป็นที่ยอมรับและไว้วางใจจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เช่น สถานพยาบาล มหาวิทยาลัย ร้านขายยา รวมถึงเป็นผู้ส่งออกเครื่องมือแพทย์และเครื่องวิทยาศาสตร์ในภูมิภาคอาเซียน บริษัทแอฟฟินิเท็ค จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ อาหารเลี้ยงเชื้อ ชุดตรวจความปลอดภัยทางอาหาร สำหรับห้องปฏิบัติการในอุตสาหกรรมอาหาร ยา เครื่องสำอาง  โรงพยาบาล และมหาวิทยาลัย ด้วยประสบการณ์ในธุรกิจมากว่า 27 ปี และ บริษัท พี ซี แอล โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ผู้นำทางการตลาดเครื่องมือวิเคราะห์และวินิจฉัยทางการแพทย์ในประเทศไทย ที่มีประสบการณ์การจำหน่ายเครื่องมือวินิจฉัยทางการแพทย์และน้ำยาทดสอบมานานกว่า 27 ปี  อีกทั้งมีบริษัทในเครือที่ดำเนินธุรกิจให้บริการสนับสนุนเทคโนโลยีทันสมัยเพื่อใช้ในห้องปฏิบัติการทางการแพทย์  มีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพมาตรฐานของห้องปฏิบัติการ และมีความเชี่ยวชาญในระบบซอฟท์แวร์ LIS (Laboratory Information Software)

 

“ความร่วมมือกับบริษัทจัดจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ชั้นนำทั้ง 3 รายนี้ จะช่วยเสริมศักยภาพการขยายธุรกิจเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพและการแพทย์ในประเทศไทยในการรองรับการใช้งานของผู้บริโภค และเพิ่มโอกาสการเข้าถึงตลาดในอาเซียนได้อย่างรวดเร็ว เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และข้อมูลนำไปสู่การขับเคลื่อนนวัตกรรมและโซลูชันใหม่ ๆ เสริมศักยภาพด้านการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้สามารถเข้าถึงวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีมาตรฐาน และยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้อย่างยั่งยืน” นายวิชาญ กล่าว
 

กระทรวงอุตสาหกรรม ผนึก SCGP นำร่องรีไซเคิลกระดาษ 10,000 กิโลกรัม

นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงฯ เป็นหน่วยงานราชการนำร่องที่นำกระดาษใช้งานแล้วมารีไซเคิลกลับมาใช้ประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมผ่านโครงการ “80 ปี กระทรวงอุตสาหกรรม 8,000 กิโลกรัม รีไซเคิลสู่สังคม” ซึ่งดำเนินการร่วมกับ บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP ในโอกาสวาระครบรอบ 80 ปีของการก่อตั้ง โดยมีหน่วยงานในสังกัดทั้ง 7 กรมเข้าร่วม ด้วยการรวบรวมคัดแยกเศษกระดาษกลับมาใช้งานใหม่เพื่อเป็นวัตถุดิบในภาคอุตสาหกรรม และรีไซเคิลเพื่อมอบแก่สังคม ซึ่งสอดคล้องกับหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนและนโยบาย BCG Economy ของรัฐบาล (Bio-Circular-Green Economy)

หลังจากเปิดตัวโครงการ กระทรวงฯ ได้ตั้งกล่องรับเศษกระดาษของทุกหน่วยงานภายใน แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ กระดาษขาวดำ กระดาษกล่อง และกระดาษรวม ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. – 31 ส.ค. 65 เป็นเวลา 6 เดือน สามารถรวมกระดาษใช้งานแล้ว จำนวนทั้งสิ้น 11,596 กิโลกรัม เกินกว่าเป้าหมาย 8,000 กิโลกรัม คิดเป็นร้อยละ 145

“โครงการดังกล่าวก่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจ คิดเป็นมูลค่ารวม 25,228 บาท ได้กระดาษ 194 รีม ผลิตภัณฑ์จากการรีไซเคิลกระดาษ 1 ชุด ได้สร้างเครือข่ายเศรษฐกิจหมุนเวียน 7 หน่วยงาน ทางด้านสังคมได้สร้างความรู้ความเข้าใจถึงแนวคิด BCG ให้บุคลากร จำนวน 324 คนจากองค์กร 133 แห่งทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ได้รีไซเคิลผลิตภัณฑ์เพื่อมอบสู่สังคม ประกอบด้วย มูลนิธิ องค์กรการกุศล และโรงเรียน รวม 8 แห่ง ทางด้านสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) และความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ลดการตัดต้นไม้ 197 ต้น ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) 7,885 กิโลกรัม ลดการใช้น้ำ 301,496 ลิตร ลดการใช้เชื้อเพลิง 16,234 ลิตร และลดการใช้พลังงาน 46,384 กิโลวัตต์ รวมทั้งเป็นการรองรับการซื้อขายคาร์บอนเครดิตในอนาคต” นายกอบชัยกล่าว

นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน)
หรือ SCGP กล่าวเพิ่มเติมว่า “SCGP ยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ ซึ่งสอดคล้องกับกรอบแนวคิด ESG 4 Plus ของบริษัท ได้แก่ “1.มุ่ง Net Zero 2.Go Green 3.Lean เหลื่อมล้ำ 4.ย้ำร่วมมือ Plus เป็นธรรม โปร่งใส” ด้วยการมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อสร้างประโยชน์ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ ในการจัดการกระดาษรีไซเคิลอย่างมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง และ SCGP พร้อมที่จะสานต่อความร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรมและทุกภาคส่วนในการขยายผลการจัดการกระดาษรีไซเคิลผ่านกิจกรรมรูปแบบต่าง ๆ เพื่อประสานพลังในการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป”

วีซี่ แพ็คเกจิ้ง เปลี่ยนชื่อเป็น เว็กซ์เซล แพ็ค

บริษัทวีซี่ แพ็คเกจิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด เปลี่ยนชื่อบริษัท ชื่อเรียกบริษัท ตราสัญลักษณ์องค์กรเป็น บริษัทเว็กซ์เซล แพ็ค จำกัด ตั้งแต่ 1 กันยายน 2565 ดังนี้

 

มารู้จัก “เว็กซ์เซล แพ็ค” กัน

                บริษัทเว็กซ์เซล แพ็ค จำกัด ใน SCGP ถือหุ้นโดย SCGP ในสัดส่วนร้อยละ 100 เป็นผู้ผลิตชั้นนำด้านบรรจุภัณฑ์แบบคงรูปสมรรถนะสูง สำหรับบรรจุอาหารที่มีคุณสมบัติป้องกันการซึมผ่าน (HighBarrier) ทนความร้อนในการฆ่าเชื้อช่วยรักษาความสด ป้องกันการปนเปื้อนสู่อาหาร รักษากลิ่น และยืดอายุการเก็บรักษาสินค้าโดยไม่ต้องแช่เย็น จึงช่วยลดปริมาณของเสียและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Carbon Footprint)

                ผลิตภัณฑ์ของเว็กซ์เซล แพ็ค มีหลากหลายรูปแบบ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า เช่น ถ้วย ถาด และขวดโหล รวมถึงสามารถออกแบบให้มีสีสันสว่างสดใส หรือโปร่งใส เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ภายใน 
            ผลิตภัณฑ์ของบริษัทยังได้รับการรับรองโดยระบบมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับการผลิตอาหาร (FSSC: Food Safety System Certificationและได้รับความเชื่อมั่นในคุณภาพจากบริษัทชั้นนำระดับโลกในอุตสาหกรรมผลไม้และการแปรรูปอาหารอีกด้วย

            เว็กซ์เซล แพ็ค ถือเป็นส่วนสำคัญของ SCGP ที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านการพัฒนาบรรจุภัณฑ์แบบคงรูป ที่ตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าชั้นนำที่มีสินค้าเป็นที่รู้จักในวงกว้างในอุตสาหกรรมอาหาร

SCGP มุ่งมั่นตอบสนองความต้องการด้านบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน โดยนำเสนอสินค้าบรรจุภัณฑ์จากเยื่อและกระดาษ บรรจุภัณฑ์จากวัสดุสมรรถนะสูงและพอลิเมอร์ ตลอดจนให้บริการด้านบรรจุภัณฑ์ที่หลากหลาย โดยปัจจุบันมีฐานการผลิตรวม 57 แห่ง ทั้งในประเทศไทย ประเทศเวียดนาม ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศมาเลเซีย สหราชอาณาจักร ประเทศสเปน ประเทศเนเธอร์แลนด์ และสหรัฐอเมริกา

 

ประกาศรายชื่อ 10 ทีม 10 ผลงานที่เข้ารอบในโครงการ SCGP Packaging Speak Out 2022 ประเทศไทย

SCGP ขอแสดงความยินดีกับ 10 ทีม 10  ผลงาน ที่เข้ารอบในโครงการ SCGP Packaging Speak Out 2022 ประเทศไทย ผู้ผ่านเข้ารอบเตรียมตัวนำเสนอผลงานรอบสุดท้าย ในวันเสาร์ที่ 8 ตุลาคมนี้

  • ผลงาน Aniรักษ์  ทีม จุดจุดจุด
  • ผลงาน CAT BOX ทีม B2B
  • ผลงาน GPG Packaging ทีม U-Ant
  • ผลงาน JELLY VEG ทีม JellyVeg
  • ผลงาน Shoes-Able ทีม ส้มป่อย
  • ผลงาน ชู ทีม i_deasign
  • ผลงาน เทปใสเปลี่ยนโลก ทีม Nineteennicha
  • ผลงาน บรรจุภัณฑ์กล่องสีไม้ ตราโมโน รุ่นสีเบื้องต้น ทีม MoNo
  • ผลงาน วงเวียนยี่ห้อ “เมเซอร์เคิล” ทีม Jirat Chamsai
  • ผลงาน สแตนด์กวิน ทีม Standguin

ดูรายละเอียดผลงานได้ที่ https://thechallenge.scgpackaging.com/th/ideaTank-th 

ทีมที่เข้ารอบ ติดต่อเพื่อยืนยันสิทธิ์ผ่าน Line OA : @scgpthechallenge หรือ bit.ly/scgpthechallenge