เส้นทางหลังจากข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง SCGP กับองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย ในการพัฒนาหลอดกระดาษเพื่อใช้กับนมยูเอชที ไทย-เดนมาร์ค แลคโตสฟรี ทำให้ไทย-เดนมาร์คเป็นแบรนด์แรกที่ใช้หลอดกระดาษจากผู้ผลิตภายในประเทศ และ a LOT ฉบับนี้ได้รับเกียรติจากคุณสุชาติ จริยาเลิศศักดิ์ รองผู้อำนวยการ ทำการแทนผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.)* มาร่วมแบ่งปันเรื่องราวจุดเริ่มต้นของความร่วมมือดังกล่าวตลอดจนภารกิจหน้าที่ของ อ.ส.ค. ที่ยืนหยัด เคียงข้างเกษตรกรไทยมาอย่างยาวนาน
*ตำแหน่งในวันที่ดำเนินการสัมภาษณ์ (วันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2564)
ภารกิจเพื่อเกษตรกรไทย
องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย หรือ อ.ส.ค. มีวัตถุประสงค์หลักอยู่ 2 ด้านด้วยกัน คือ ด้านส่งเสริมกิจการโคนม โดยส่งเสริมเกษตรกรในเรื่ององค์ความรู้ตั้งแต่ต้นน้ำ การเลี้ยงโคนม และการดูแลส่งเสริมในเรื่องการทำฟาร์มโคนมอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยง การผสมพันธุ์โค และการปรับปรุงพันธุ์ ตลอดจนเมื่อได้ผลผลิต อ.ส.ค. ยังเป็นผู้รับซื้อและประกันราคาน้ำนมให้แก่เกษตรกร ซึ่งถือเป็นภารกิจอีกด้านหนึ่ง คือ ด้านธุรกิจอุตสาหกรรมนม ที่ อ.ส.ค. ดำเนินกิจการภายใต้แบรนด์ไทย-เดนมาร์ค
“ด้านธุรกิจอุตสาหกรรมนม เรารับซื้อน้ำนมโคประมาณวันละ 700 ตัน หรือราว 20% ของการรับซื้อทั้งหมด ถือเป็นผู้รับซื้อรายใหญ่ที่สุดของประเทศมีโรงงานผลิต 5 แห่งกระจายอยู่ทั่วทุกภาค เพื่อทำการแปรรูปน้ำนมโครวมถึงเรื่องทำการตลาดและการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์คเพื่อให้เกิดรายได้กลับเข้าสู่ อ.ส.ค. ในช่วงโควิด 19 ผลประกอบการของผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์คได้รับกระทบอยู่พอสมควร เพราะเป็นผู้ผลิตที่จะต้องรับซื้อน้ำนมดิบจากเกษตรกรไม่ว่าจะขายได้หรือไม่ได้ เราก็ต้องรับซื้อเพราะเกษตรกรรีดนมมาแล้ว
“เราสร้างองค์กรเราให้เป็นที่รักทั้งของเกษตรกรและผู้บริโภค เป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือและอยู่ในใจคนไทย จนได้รางวัล Thailand’s Most Admired Brand แบรนด์ที่น่าเชื่อถือที่สุด หมวดอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มนมพร้อมดื่มยูเอชที ติดต่อกันมา 2 ปีแล้ว ในตลาดนมกลุ่ม General Milk คือ รสจืด ร้สหวาน และรสช็อกโกแลต ไทย-เดนมาร์คเป็นผู้จัดจำหน่ายที่มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 โดยผลิตภัณฑ์นมของเราแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่คือกลุ่มนมยูเอซที หรือเรียกว่านมกล่อง และกลุ่มนมเย็น ที่มีทั้งนมพาสเจอร์ไรซ์ โยเกิร์ต และไอศกรีมต่าง ๆ “
เปลี่ยนตั้งแต่วันนี้ เพื่ออนาคตของโลก
จากการริเริ่มแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดี และการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของ อ.ส.ค. เมื่อ 2 ปีก่อน ทำให้เกิดแนวคิดในการศึกษาด้านบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประกอบกับคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบกับการยกเลิกการใช้พลาสติก 4 ชนิด ซึ่งหนึ่งในนั้นมีหลอดพลาสติกรวมอยู่ด้วย เป็นที่มาให้ อ.ส.ค. หารือกับ SCGP ในการพัฒนาหลอดกระดาษเพื่อใช้กับผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์ค
“อ.ส.ค. ได้พูดคุยกับ SCGP และเริ่มทดลองอย่างจริงจัง โดย SCGP ส่งเจ้าหน้าที่มาร่วมทดลองกับเราถึงที่โรงงาน เพราะลักษณะของหลอดกระดาษที่ต้องการใช้นั้นไม่ใช่หลอดทรงตรงแบบที่เห็นตามร้านทั่วไป ต้องพับงอ เพื่อนำไปติดไว้ข้างกล่องนมได้ สุดท้าย SCGP ก็ช่วยพัฒนาจนสำเร็จ สามารถใช้งานได้จริง ๆ แต่หลอดกระดาษยังมีต้นทุนสูงกว่าหลอดพลาสติกพอสมควรเราจึงจำเป็นต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่พอจะทำตลาดและส่งเสริมผู้บริโภคได้จึงเลือกนำร่องใช้กับสูตรนมแลคโตสฟรีของเราก่อน
“SCGP ถือเป็นบริษัทไทยรายแรกที่สามารถผลิตหลอดดังกล่าวได้ เพราะที่ผ่านมาต้องนำเข้าจากต่างประเทศ หลังจากวางจำหน่ายไปก็มีเสียงตอบรับที่ดีมากจากผู้บริโภค โดยเฉพาะทางโซเชียลมีเดียมีคนชื่นชมมาก เรื่องการใช้หลอดกระดาษถือเป็นเรื่องน่าภูมิใจที่ผู้บริโภคให้การสนับสนุน เพราะเราให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม ภาครัฐเองก็ให้ความสนใจ และมีนโยบายเรื่องของเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยให้รัฐวิสาหกิจทุกแห่งนำยุทธศาสตร์ในเรื่องนี้ไปอยู่ในแผนการดำเนินงานของทุก ๆ องค์กรด้วย”
“นวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม” ความร่วมมือไม่มีที่สิ้นสุด
หลอดกระดาษถือเป็นส่วนหนึ่งในหลาย ๆ ความร่วมมือที่ อ.ส.ค. ไว้วางใจเลือก SCGP เป็นพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจ ซึ่งแน่นอนว่า ทั้งที่ผ่านมาและแผนการในอนาคตจะมีการผนึกกำลังเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง
“อ.ส.ค. เห็นถึงศักยภาพของ SCGP ที่เป็นองค์กรตัวอย่างในการเรียนรู้เกี่ยวกับเครื่องมือในการบริหารองค์กร แนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพต่าง ๆ ที่ได้รับการยอมรับจากทั้งหน่วยงานรัฐหรือองค์กรธุรกิจต่าง ๆ ถือเป็นความภาคภูมิใจที่เราได้ร่วมมือกัน
“สิ่งที่เราอยากเห็นหลังจากนี้คือ การบริหารต้นทุนของหลอดกระดาษให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เราจะได้ขยายผลใช้หลอดกระดาษกับสินค้าอื่น ๆ ที่เรามีถ้าเราสามารถลดหรือเลิกใช้หลอดพลาสติกได้ทั้งหมดอย่างที่ภาครัฐต้องการจะสามารถลดขยะได้อย่างมหาศาล อันนี้เป็นสิ่งที่อยากจะเห็นความสำเร็จต่อไป
“ทั้งนี้จะสังเกตได้ว่า เรายังเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกับผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างนมยูเอชทีรสเผือกและรสมะม่วงมหาชนก ที่เพิ่งวางตลาดทางออนไลน์ไปเมื่อวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา เราเลือกใช้กล่องนมรักเรา รักษ์โลก’ ซึ่งเป็นกล่องนมยูเอชทีที่ผลิตขึ้นจากกระดาษ 69% PE Material 25% และอะลูมิเนียม 6% เนื่องจากนมต้องการการถนอมอาหารด้วยอะลูมิเนียม ซึ่ง PE Material ชีวภาพที่ใช้นี้สร้างขึ้นจากน้ำมันสน สามารถปลูกทดแทนได้ และช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หมายความว่า กล่องนมที่ว่านี้มีส่วนประกอบถึง 94% ที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม และเราเป็นเจ้าแรกที่ใช้กล่องชนิดนี้ เพราะไม่ว่าอะไรก็ตามที่ส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมคือนโยบายหลักของ อ.ส.ค.” คุณสุชาติกล่าวสรุปทิ้งท้าย