SCGP Newsroom

“CUre AIR SURE” หน้ากากกรองฝุ่นพิษและเชื้อโรค เพื่อคนไทย

สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยมาตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา บวกกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด19 ในทั่วโลก ทำให้การใช้ชีวิตของผู้คนต้องมีการปรับเปลี่ยนไปจากเดิม เพื่อปกป้องตัวเองจากภัยอันตรายที่ได้คืบคลานเข้ามา

 

สิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนว่า การมาของฝุ่นและเชื้อโรคเหล่านี้ ได้ก่อให้เกิดวิถีชีวิตรูปแบบใหม่ขึ้นมา นั่นก็คือ การสวมใส่ “หน้ากากอนามัย” เมื่อต้องออกไปใช้ชีวิตในโลกภายนอก ซึ่งครั้งหนึ่งทางนักออกแบบของ SCGP เคยมีโอกาสใหญ่ ๆ ในการได้ร่วมงานกับหน่วยงานที่มีความสนใจเกี่ยวกับเรื่องการผลิตหน้ากากอนามัย และหน้ากากกรองฝุ่น ที่มีประสิทธิภาพ สวมใส่สบาย ออกมาเพื่อให้คนไทยได้ใช้งานกัน ทุ่มเทกำลังกายและใจ ก่อนจะให้กำเนิดหน้ากากกรองฝุ่นพิษและเชื้อโรค ในชื่อ “CUre AIR SURE” ขึ้นมา

 

จุดริเริ่ม

หลายคนน่าจะทราบกันว่า ในช่วงประมาณปี 2020 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เชื้อไวรัสโควิด 19 กำลังเข้ามาแพร่ระบาดในประเทศไทยใหม่ ๆ นั้นก็ได้เกิดวิกฤตขาดแคลนหน้ากากอนามัยที่มีคุณภาพขึ้นมา

วิกฤตดังกล่าวได้ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางให้กับสังคมไทย ในการตามหาหน้ากากอนามัยที่ได้คุณภาพมาครอบครอง หรือต่อให้หาได้ หน้ากากอนามัยเหล่านั้นก็ไม่ได้มีคุณภาพมากพอกับการป้องกันฝุ่นและเชื้อโรคได้อย่างดีที่สุด

 

และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาล ที่เป็นกำลังหลักสำคัญในช่วงที่เชื้อไวรัส โควิด 19 กำลังสร้างความหวาดกลัวให้กับผู้คนอย่างหนักนั้น หน้ากากอนามัยที่มีประสิทธิภาพสูง ถือเป็นอุปกรณ์ที่พวกเขาจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสวมใส่เพื่อทำงานอยู่ตลอด ไม่สามารถหลีกเลี่ยงในจุดนี้ได้

 

ช่วงเวลานั้น ทางกลุ่มทุนวิจัยการผลิต และการจัดการ จากโครงการสร้างเสริมพลังจุฬาฯ กองทุนศตวรรษที่ 2 (C2F) และทาง CU Engineering Enterprise จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เห็นว่าประเทศไทยยังไม่สามารถผลิตหน้ากากอนามัยที่มีคุณภาพออกมาได้เอง ต้องนำเข้าอย่างเดียว และถึงแม้จะนำเข้าหน้ากากอนามัยจากต่างประเทศมา หน้ากากอนามัยเหล่านั้นก็มีคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน มีขนาดที่ไม่ได้เหมาะสมกับโครงหน้าของคนไทยโดยส่วนใหญ่ อาจจะทำให้ผู้ใช้งานมีความเสี่ยงต่ออันตรายได้

 

จึงร่วมมือกันจัดตั้งทีมสำหรับการระดมความคิด, ผลิตหน้ากากอนามัยที่มีคุณภาพ เหมาะสำหรับการใช้งานของคนไทยออกมา ซึ่งทีมดังกล่าวก็ได้ทางนักออกแบบของ SCGP เข้ามาช่วยในเรื่องของการออกแบบผลิตภัณฑ์ครั้งนี้ ในชื่อ หน้ากากกรองฝุ่นพิษและเชื้อโรค “CUre AIR SURE”

 

“อย่างที่เราจำกันได้ ตอนที่ประเทศไทยเจอกับโควิดใหม่ ๆ เนี่ย หน้ากาอนามัยมันจะขาดแคลน ซึ่งหน้ากากอนามัยที่เราหากันมาได้เนี่ย คือแค่มีก็พอแล้ว ใช้ได้ไม่ได้ ไม่รู้ แต่ต้องมีเอาไว้ก่อน” นักออกแบบ SCGP กล่าว

 

“มันก็กลายเป็นปัญหาใหญ่ขึ้นมา พอทาง คณะวิศวะฯ จุฬาฯ ไปสืบค้นดู ก็พบว่าประเทศไทย ยังผลิตหน้ากากอนามัยไม่ได้ ต้องนำเข้า 100 เปอร์เซนต์ โดยนำเข้ามาจากที่ไหนก็ได้ ไม่มีบังคับ จึงคิดว่าจะทำอย่างไรดี ให้ประเทศไทยได้มีการผลิตหน้ากากอนามัยที่มีคุณภาพ ออกมาใช้งานได้บ้าง เลยเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการครั้งนี้”

 

ประสิทธิภาพครบครัน

สำหรับหน้ากาก “CUre AIR SURE” นั้น ทางนักออกแบบ SCGP ได้มีการดีไซน์ผลิตภัณฑ์ออกมาโดยเน้นไปที่ประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นและเชื้อโรค และความสะดวกสบายในการใช้งาน

 

ตัวหน้ากากมีความสามารถในการกรองอนุภาคและป้องกันฝุ่น PM2.5 ได้เทียบเท่ากับหน้ากาก N95 มีประสิทธิภาพการกรองทั้งแบคทีเรีย และฝุ่น ได้กว่า 99 เปอร์เซนต์ มีรูปแบบให้ใช้แผ่นกรองแบบเปลี่ยนได้ ไม่ต้องทิ้งทั้งชิ้นเหมือนกับหน้ากากโดยทั่วไป น้ำหนักเบาเพียง 15 เปอร์เซนต์ ของหน้ากากอนามัยทั่วไป ไม่บดบังทัศนวิสัยระหว่างการทำงานของผู้ใช้งาน สวมใส่สบาย

ส่วนสิ่งที่ทางนักออกแบบ SCGP ต้องเจอกับการออกแบบผลิตภัณฑ์ หน้ากากกรองฝุ่นพิษและเชื้อโรค “CUre AIR SURE” นั้นก็คือการจำเป็นต้องสื่อสารร่วมงานกับคนหลายฝ่าย เพื่อให้ได้ชิ้นงานออกมาเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งทางนักออกแบบ SCGP ก็ได้เปิดเผยว่า ถ้าไม่ได้มีการร่วมงานกับคนในกลุ่มอื่น ๆ เขาก็ไม่มีทางที่จะทำให้ผลงานครั้งนี้เกิดขึ้นจริงได้

 

“เราทำหน้าที่ในส่วนของการออกแบบทั้งหมด แต่เราก็ต้องหาผู้ที่สามารถจัดหาทรัพยากร สำหรับการผลิตผลงานชิ้นนี้ออกมาให้ได้ด้วย มีหลายฝ่ายเลยที่เราต้องไปคุย ต้องไปร่วมงาน ซึ่งก็ทำให้เราได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ จากพวกเขา”

 

ใส่ใจคนใช้งาน

นอกเหนือจากประสิทธิภาพในการใช้งานแล้ว อีกรายละเอียดหนึ่งที่ทางนักออกแบบ SCGP ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพื่อให้หน้ากาก “CUre AIR SURE” นั้นเป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกออกแบบและสร้างขึ้นมาสำหรับคนไทยทุกคน ก็คือ การออกแบบตัวหน้ากาก ให้มีขนาดที่เหมาะสมกับโครงหน้าของคนเอเชีย ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง

 

โดยทางนักออกแบบ ก็ได้กล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “เรื่อง Ergonomics (ตามหลักสรีรศาสตร์) คือตอนที่ดีไซน์ตัวหน้ากาก ผมก็ไปศึกษาเกี่ยวกับโครงหน้าของคนเอเชียมาก่อน เพราะว่าหน้ากากที่มีอยู่ในไทยเกือบทั้งหมด เป็นของสำหรับคนยุโรป เราก็ไปหาหลักสถิติของคนไทยมาว่า จมูกควรประมาณนี้ หน้าควรประมาณนี้ เพื่อให้ตัวหน้ากากมันเหมาะสำหรับให้คนไทยได้ใช้งานมากที่สุด”

 

“และเรื่อง Ergonomics จะส่งผลถึงเรื่องความปลอดภัยของผู้สวมใส่ด้วย อันนี้ก็เป็นเรื่องใหญ่ที่ผมเพิ่งได้เรียนรู้จากการทำงานนี้ ก็คือถ้าตัวหน้ากาก มีขนาดที่ไม่พอดีกับผู้สวมใส่ จะมีจุดรั่ว พอมีจุดรั่ว ก็ไม่มีประโยชน์แล้ว”

 

และด้วยทั้งประสิทธิภาพในการใช้งาน ความสะดวกสบายในการสวมใส่ และการใส่ใจในรายละเอียดสำคัญ ที่หลาย ๆ คนอาจมองข้าม ทำให้ผลงาน หน้ากากกรองฝุ่นพิษและเชื้อโรค ในชื่อ “CUre Air Sure” นั้นสามารถก้าวไปถึงเกียรติยศ คว้ารางวัล “Design Excellence Award (DEmark)” กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมและดิจิทัล ในปี 2021 

 

ต่อเนื่องในปีเดียวกันกับรางวัล “Good Design Award (G-Mark)” จากประเทศญี่ปุ่น ด้านการออกแบบนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ทางสุขภาพ

 

“ทางคณะกรรมการของญี่ปุ่น เขาก็ทึ่งมากว่าเราสามารถทำผลงานชิ้นนี้ออกมาได้ เราได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่า SCGP นั้นไม่ธรรมดานะ ทั้งองค์ความรู้ต่าง ๆ เทคนิคการผลิด มันเป็นความรู้ในระดับที่ที่อื่นไม่มีกัน”

 

“เราสามารถสื่อสารให้ผู้ผลิต สามารถเข้าใจในงานออกแบบของเรา และสามารถผลิตชิ้นงานออกมาให้ตรงกับที่เราออกแบบเอาไว้ได้ ซึ่งเป็นคือองค์ความรู้ที่ผมว่ามีค่า” นักออกแบบ SCGP กล่าว
 

Leave a comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *