เมื่อความเปลี่ยนแปลงมาถึง การเปิดโอกาสให้ตัวเองได้ลองอะไรใหม่ ๆ จึงเป็นเรื่องน่าสนุก วันนี้เราได้นั่งคุยกับสอง AE ผู้ดูแลสินค้ากลุ่ม consumer product ที่จะต้องเข้าถึงผู้บริโภคอย่างใกล้ชิดมากขึ้น พร้อมทั้งร่วมแชร์วิธีการที่ทั้งคู่ใช้รับมือกับโจทย์ใหม่ที่มีความท้าทายเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
“FEEDBACK IS POWER. LISTENING TO EVERY VOICE.”
“จากเดิมปลาดูแลสินค้าแบบ B to B (Business to Business) เป็นสินค้าอุตสาหกรรมที่ขายให้กับผู้ผลิต ดีลผ่านผู้ประกอบการหรือฝ่ายจัดซื้อ ซึ่งขายหรือสื่อสารกับลูกค้าได้โดยตรง ถ้าสินค้าไม่ตอบโจทย์
ก็ปรับหรือหาแนวทางพัฒนาร่วมกับลูกค้าได้ทันที แต่การขายสินค้าแบบ B to C (Business to Consumer) การปฏิสัมพันธ์กับผู้บริโภคค่อนข้างยาก การทำการตลาดหรือการสื่อสารผ่านช่องทางต่าง ๆ จึงมีความสำคัญและท้าทาย ต้องปรับตัวและปรับกรอบความคิดในการทำงานใหม่เพื่อสู้กับความท้าทายนี้
“อย่างแรกคือ ต้องเปิดใจ เพื่อก้าวข้าม comfort zone การประสานงานกับหน่วยงานอื่น ๆ เราต้องมองเป้าหมายเดียวกัน นั่นคือ ความต้องการของผู้บริโภค และต้องเปิดใจยอมรับความคิดเห็นจากหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อปรับปรุงสินค้าให้ออกมาดีที่สุด เมื่อสินค้าออกสู่ตลาด แน่นอนว่า เราจะได้รับ feedback ทุกรูปแบบ เสียงชื่นชมก็เก็บไว้เป็นแรงบันดาลใจ หรือกำลังใจในการทำงาน ส่วนคำแนะนำก็นำมาปรับปรุง พัฒนาสินค้า ของเราให้ดียิ่งขึ้น เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคอย่างแท้จริง
“เป้าหมายของปลาคือ อยากพัฒนาสินค้าแบบ outside in ร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ ภายใน และนำสินค้าที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างแท้จริงออกสู่ตลาดให้ได้ ปลามองว่าสินค้าเป็นลูกคนหนึ่ง หากเราต้องการให้เขาเติบโตในอนาคต เราต้องวางรากฐาน เลี้ยงดูและคอยเฝ้าดูว่ามีอะไรที่ควรซัปพอร์ต เพื่อเติมเต็มให้เขาเติบโตอย่างมีคุณภาพ
“ในแต่ละวัน ปลามีสองอย่างที่คิดและทำอยู่เสมอ อย่างแรกคือ การประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งมีค่อนข้างเยอะ ปลาจะใช้วิธีการที่เรียกว่า catch ball คือ การส่งต่องานไปให้หน่วยงานอื่น ๆ อย่างรวดเร็ว
และมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุด อย่างที่สองคือ การรับมือกับงานที่หลากหลาย ซึ่งจะเจอทั้งวันที่สมหวังและผิดหวัง ปลาจะหา small win สักเรื่องหนึ่งในแต่ละวัน เพื่อเป็นกำลังใจในการทำงานวันต่อไปให้มีประสิทธิภาพมากเท่าที่จะมากได้”
ปริญญาภรณ์ แสงสุข (ปลา)
Account Executive – Consumer Product, SCGP
“COLLABORATE WITH SENSE OF OWNERSHIP & SPEED.”
“เหมือนกับปลาครับ เดิมดูแลงานขายสินค้าแบบ B to B ที่เน้นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเรากับลูกค้า สร้างความเชื่อมั่นในการเป็นพาร์ตเนอร์พอเปลี่ยนมาดูแลสินค้าที่เป็น B to C มีความรู้สึกที่แตกต่างกันมาก เพราะการใกล้ชิดกับผู้บริโภคต้องทำมากกว่าการเดินเข้าประตูไปหา
“เราต้องหาวิธีสื่อสารผ่านกิจกรรมการส่งเสริมทางการตลาดต่าง ๆ ที่เป็นเรื่องใหม่ ต้องเรียนรู้หาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อทำให้สินค้าใหม่ของเราเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งมีความท้าทายค่อนข้างมาก มีสองเรื่องสำคัญที่คิดอยู่เสมอคือ sense of ownership และ flexibility ในการทำงานเพราะสินค้า B to C นั้นต้องศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคก่อน ซึ่งปัจจุบันผู้บริโภคสามารถสั่งซื้อสินค้าได้ตลอดเวลา 7 วัน 24 ชั่วโมง ต่างจากเดิมที่เวลาการทำงานค่อนข้างชัดเจน หากต้องการเข้าถึงพฤติกรรมผู้บริโภค เราจะต้องวิเคราะห์ว่าเวลาไหนเขาจะซื้อของ อย่างออนไลน์เวลาที่ดีที่สุดคือ เวลากลางคืน นั่นแปลว่าเราต้องพร้อมที่จะเซอร์วิสหรือปิดการขายในช่วงเวลานั้น ถ้าคิดว่าเราเป็นส่วนหนึ่ง หรือมีความเป็นเจ้าของ เราจะรู้สึกว่าไม่ว่าเวลาไหนเราก็พร้อมให้บริการ
“อีกเรื่องคือ speed เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะตลาดมีความเปลี่ยนแปลงค่อนข้างไว การที่เราปรับตัวได้เร็วเท่าทันพฤติกรรมของผู้บริโภคจึงมีความสำคัญมาก ต้องกล้าตัดสินใจบนข้อมูลที่แม่นยำ และนำเสนอกิจกรรมทางการตลาดให้โดนใจและทันใจผู้บริโภคมากที่สุด
“สำหรับเป้าหมายของเดียวคือ การพัฒนาสินค้าให้ออกสู่ตลาดตรงตามกรอบเวลาที่วางไว้และตรงตามความต้องการของผู้บริโภคด้วย ดังนั้นการได้มาซึ่งเป้าหมาย เราต้องเป็นฟันเฟืองหลักในการประสานความร่วมมือของหน่วยงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานวิจัย หรือ customer science ที่คอยวิเคราะห์หาข้อมูลตลาด หรืองานหลังบ้านอย่างบริการลูกค้าเราต้อง collaborate ให้ทุกคนร่วมมือกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเห็นเป้าหมายเดียวกันให้ได้ เพราะเราไม่สามารถทำได้คนเดียวแน่ ๆ
“หลักการทำงานของเดียวจะมองในเรื่อง passion เป็นหลัก เพราะถือเป็นจุดเริ่มต้นของทุกงาน เมื่อเรามีใจกับมันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นอุปสรรคแบบไหนก็พร้อมที่จะเปิดใจรับ และค้นหาวิธีการต่าง ๆ มาใช้ ทุกวันจะตื่นนอนด้วยความรู้สึกที่อยากทำงาน อยากพัฒนาสินค้า และส่งไปถึงมือผู้บริโภคให้ดีที่สุด ถ้าเราเริ่มต้นด้วยความรู้สึกแบบนี้ เดียวว่าอุปสรรคมันจะเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย และเราสามารถก้าวข้ามมันไปได้ด้วยดี”
สุรพัชร์ แสวงศักดิ์ (เดียว)
Account Executive – Consumer Product, SCGP