SCGP Newsroom

กรัณย์ เตชะเสน: เรียนรู้สิ่งใหม่ ต่อยอดโอกาสทางธุรกิจ

ในช่วงเวลาที่ธุรกิจต่าง ๆ ของ SCGP กำลังขยาย เติบโตแตกกิ่งก้านสาขาในหลายภูมิภาคของโลก จึงเป็นโอกาสดีของ P-DNA ในการชักชวน พี่กรัณย์  เตชะเสน – Chief Operating Officer (COO) – Consumer and Performance Packaging Business มาเล่าถึงก้าวสำคัญที่ SCGP กำลังขยับเข้าสู่ตลาดระดับโลก ในฐานะผู้ผลิตและผู้นำเสนอสินค้าเกี่ยวกับวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ และการเรียนรู้สิ่งใหม่ในธุรกิจ พร้อมทั้งกลยุทธ์ที่ใช้รับมือกับ New Demand ในช่วงเวลาถัดจากนี้

 

เรียนรู้ตลาดใหม่ ต่อยอดความสำเร็จ

พี่กรัณย์เริ่มบทสนทนาว่า SCGP มีธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เริ่มที่ธุรกิจการส่งเสริมการปลูกไม้ยูคาลิปตัส กระบวนการผลิตเยื่อและกระดาษและการผลิตบรรจุภัณฑ์ ทั้งที่เป็นบรรจุภัณฑ์กระดาษและบรรจุภัณฑ์โพลิเมอร์ ซึ่งเป็นธุรกิจปลายน้ำที่พี่กรัณย์ดูแลอยู่

“ธุรกิจปลายน้ำเป็นธุรกิจบรรจุภัณฑ์ที่มีทั้งกระดาษและไม่ใช่กระดาษหน้าที่หลักของพี่คือ ดูแลบรรจุภัณฑ์สำหรับผู้บริโภค และบรรจุภัณฑ์สมรรถนะสูง (บรรจุภัณฑ์ที่มีสมรรถะสูงกว่ากระดาษทั่วไป เช่น พลาสติก

หรือกระดาษชนิดพิเศษ) ปัจจุบันดูแลอยู่ 6 บริษัท รวม 15 โรงงานทั้งในประเทศไทย เวียดนาม และสเปน ส่วนที่จะคุยกันต่อจากนี้คือ การเข้าสู่ตลาดในกลุ่มวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่นับว่าเป็นเรื่องค่อนข้างใหม่สำหรับพวกเราทุกคน

“ลูกค้าปลายทางในธุรกิจใหม่ ๆ ที่ SCGP เข้าไป M&P (Merger & Partnership) อาจเป็นกลุ่มที่เราไม่ได้คุ้นเคยมากนัก เช่น บรรจุภัณฑ์ที่เป็นกลุ่ม Healthcare วัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ เป็นโอกาสให้พวกเราได้เรียนรู้กระบวนการผลิต การทำงาน และช่องทางในธุรกิจรูปแบบใหม่ ๆ ซึ่งในธุรกิจแวดวงใหม่นี้ นอกจากตัวสินค้ากลุ่มใหม่ ๆ แล้ว ก็มีการใช้สินค้าบรรจุภัณฑ์ปกติที่เราทำอยู่แล้วด้วยเช่นกัน ฉะนั้นความรู้ความเข้าใจที่เพิ่มขึ้นก็สามารถนำมาต่อยอดหรือพัฒนาธุรกิจเดิมของเราให้ดียิ่งขึ้นได้ด้วย”

คว้าโอกาสจาก New Demand

“สินค้าในกลุ่ม Healthcare และวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ เมื่อนำมาเทียบกับตลาดบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารและเครื่องดื่ม พบว่าไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนัก แต่อัตราการเติบโตสูง เนื่องจากเศรษฐกิจในหลายประเทศดีขึ้นผู้คนสามารถเข้าถึงโรงพยาบาลได้มากขึ้น และปัจจุบันคนใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น จึงหันมาดูแลและตรวจสุขภาพตัวเองกันมากขึ้น โดยตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังเป็นตลาดที่เติบโตมากที่สุด รองลงไป ได้แก่ ตลาดในภูมิภาคอื่นหรือประเทศพัฒนาแล้ว ซึ่งอาจเติบโตในระดับที่น้อยกว่า รวม ๆ กันแล้วถือว่าเป็นตลาดใหม่ หรือ New Demand สำหรับเรา

“แม้ว่าหลาย ๆ สินค้าในกลุ่มนี้เป็นการขึ้นรูปชิ้นงานพลาสติก แต่ก็มีความแตกต่างจากการขึ้นรูปพล่าสติกสำหรับเป็นบรรจุภัณฑ์ทั่วไปที่ SCGPทำเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น เราจึงต้องนำความสามารถที่มีอยู่มาพัฒนาและประยุกต์ให้เหมาะสม ซึ่งก็จะเป็นการช่วยเสริมสร้างพื้นฐานเราให้เข้มแข็งยิ่งขึ้นด้วย เพราะในตลาดใหม่นี้ จะเน้นความสะอาดในสภาพการผลิต และความละเอียดแม่นยำเป็นสำคัญ ซึ่งเป็นหัวใจสำหรับบรรจุภัณฑ์อาหารต่าง ๆ ที่เราผลิตอยู่แล้วเช่นกัน นอกจากนี้ก็มีโอกาสที่เราสามารถทำให้ครบวงจรมากยิ่งขึ้น เริ่มตั้งแต่การออกแบบหน้าตา หรือรูปทรงอุปกรณ์แล้วทำแม่พิมพ์ขึ้นเอง ซึ่งความเชี่ยวชาญนี้ทำให้เราสามารถพัฒนาสินค้าร่วมกับลูกค้าได้ ตอบสนองความต้องการลูกค้าได้ดีขึ้น เช่น สมมติถ้าลูกค้าบอกว่า ตอนตรวจ ATK ช่องที่หยดน้ำยาเล็กเกินไป ต้องการให้ใหญ่ขึ้นอีกนิด อยากให้รูที่หยดเป็นวงรี ๆ  ถ้าเราแค่ฉีดพลาสติกอย่างเดียว ก็จะไม่สามารถตอบสนองได้ทันที แต่ถ้าเราออกแบบและทำแม่พิมพ์เองได้ด้วยเราจะทำตัวอย่างให้ละเอียดขึ้นได้ และสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ดีขึ้นและรวดเร็วขึ้น”

ขยายธุรกิจสู่ยุโรป จุดเริ่มต้นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต
“ในยุโรปตอนนี้ SCGP มีธุรกิจที่อังกฤษ สเปน และเนเธอร์แลนด์ในอนาคตก็อาจจะมีเพิ่มขึ้นอีก สิ่งที่สัมผัสได้ในการทำงานกับต่างชาติคือ บางบริษัทที่มีบริษัทย่อยหลายแห่ง การทำงานร่วมกันเป็นทีมนั้นอาจยังมีไม่มาก เนื่องจากเขาค่อนข้างมีความเป็นตัวของตัวเองสูง เน้นความรับผิดชอบในงานของตัวเองเป็นหลัก เราจึงเอาจุดแข็งเรื่องการทำงานเป็นทีมเข้าไปช่วยเสริม เชื่อมการทำงาน รวมพลังเดินหน้าไปในทิศทางเดียวกัน

“นอกจากยุโรปแล้ว เรายังส่งสินค้าไปขายในหลากหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงตลาดขนาดใหญ่และอยู่ไกลออกไป อย่างเช่น สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นสิ่งที่แสดงว่า เรามีความแข็งแกร่งของธุรกิจพอสมควรทีเดียว ฐานของเราที่ยุโรปสามารถติดต่อสื่อสารตอนเช้ากับฝั่งเอเชีย และตอนบ่ายกับฝั่งอเมริกาได้อย่างสะดวก ฉะนั้นถือเป็นฐานที่สำคัญของเราสำหรับการเดินหน้าเติบโตต่อไปในอนาคต”

การเดินหน้าไปสู่เป้าหมาย ไม่ได้มีเพียงเส้นทางเดียว

“พี่เปิดโอกาสให้น้องในทีมแสดงความคิดเห็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งความคิดเห็นที่แตกต่าง ไม่อยากให้ทุกคนฟังเพียงอย่างเดียว บางทีพี่อาจจะไม่ได้เห็นด้วยกับทีมร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าสิ่งนั้นไม่เสียหายและไอเดียนั้นก็ใช้ได้ พี่ก็จะลองให้ทีมเดินหน้าไปตามแบบของพวกเขา เพราะหลายอย่างไม่ได้มีแค่คำตอบเดียว นี่เป็นวิธีที่ทำให้ทีมรู้สึกถึงการมีส่วนร่วม ซึ่งเป็นสิ่งที่พี่เน้น”อีกเรื่องที่สำคัญคือ การส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้อยู่เสมอ เพราะเราเข้าสู่ธุรกิจที่ต้องเรียนรู้ใหม่ค่อนข้างเยอะ เป็นเรื่องปกติที่คนเราอาจทำผิดพลาดได้แต่ผิดแล้วต้องเรียนรู้ ทบทวนว่าพลาดอะไรไป หรือเรื่องในอดีตสามารถประยุกต์ใช้กับเรื่องใหม่ที่กำลังเดินหน้าได้อย่างไรบ้าง พี่ ๆ เองก็ต้องเป็นตัวอย่าง พยายามเรียนรู้ไม่หยุดเช่นเดียวกับทุกคน ไม่ว่าจะยุ่งมากแค่ไหนพี่ชอบดูว่าคนอื่นเค้ากำลังทำหรือเน้นเรื่องอะไรกันอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกที่เป็นผู้นำในตลาดโลก ต้องพยายามดู หาข้อมูลทั้งด้านตลาด ทั้งจากบทความ สรุปงานวิจัย หลักการต่าง ๆ ที่คนอื่น ๆ มีการค้นคว้าอยู่ก่อนแล้ว เพื่อให้ได้รู้ว่าจะสามารถพัฒนาไปได้ถึงไหน เพราะในหลายเรื่องเราอาจจะคิดว่าทำดื้อยู่แล้ว แต่อาจยังมีวิธีการที่ดีกว่าก็ได้

“สำหรับน้อง ๆ SCGP พี่คิดว่าธุรกิจเราสามารถเติบโตไปได้อีกมากถ้าไม่ตีกรอบตัวเองจนเกินไป จะเห็นว่าเราค่อย ๆ แผ่กิ่งก้านออกไปในธุรกิจที่อาจจะไม่ใช่ของเดิม เป็นการต่อยอดสิ่งใหม่ออกไป เราต้องพยายามเชื่อมโยงสิ่งต่าง ๆ แล้วทำให้เครือข่ายเราเข้มแข็งขึ้น ตอนนี้เรามีธุรกิจอยู่หลายที่ในภูมิภาคอาเซียน แต่ว่าที่เขารู้จักเราจริง ๆ ก็อาจจะมีอยู่ไม่กี่ตลาด พวกเราจึงต้องสร้างความเข้มข้นในตลาดอื่น ๆ ให้เป็นที่รู้จัก เป็นที่ยอมรับได้เหมือนกับตลาดในไทย ซึ่งยังมีการบ้านที่ต้องทำกันอีก อนาคตขององค์กรอยู่ที่น้อง ๆ ทุกคนนะครับ” พี่กรัณย์ฝากข้อคิดทิ้งท้าย

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *