ในเส้นทางการทำงาน เรามีตัวเลือกเพื่อหาโอกาสในการพัฒนาตนเองหลากหลายรูปแบบ หนึ่งในนั้นคือการได้ลองไปทำงานในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นระยะสั้นหรือระยะยาว เช่นเดียวกับ สาม – รนินท์โชติ พลพัฒนะวัชร์ ที่วันนี้มีโอกาสมาแซร์เรื่องราวการเรียนรู้วัฒนธรรม วิถีชีวิต แนวทางการทำงานในต่างประเทศที่เขาได้ไปสัมผัสและประทับใจ จนอยากชวนให้ทุก ๆ คนก้าวออกจาก comfort zone และเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้กับตัวเอง
พัฒนาตัวเอง เรียนรู้และปรับตัว สู่ “MOBILITY”
“เดิมผมเป็นวิศวกร สังกัดฝ่ายพลังงาน ได้ทำโครงการเกี่ยวกับการขยายธุรกิจมาพอสมควร เราก็มองว่าในอนาคตถ้ามีโอกาสได้ไปทำงานที่ต่างประเทศ น่าจะเป็นความท้าทายใหม่ ๆ จนทราบข่าวว่า บริษัทกำลังมีโครงการขยายกำลังการผลิตที่ประเทศฟิลิปปินส์ ผมจึงอาสาสมัครไปทำงานที่นั่น
“โครงการที่ไปทำคือ การติดตั้งเครื่องจักรเพื่อรองรับการขยายกำลังการผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์ ผมมีหน้าที่ดูแลงานไฟฟ้าและไอน้ำของโรงงาน การตัดสินใจไปครั้งนี้มาจากความอยากเรียนรู้ครับ ผมชอบสื่อสาร ชอบทำงานกับคนต่างชาติเพื่อหาความรู้ใหม่ ๆ อยู่แล้ว และคิดว่าการไปอยู่ต่างประเทศน่าจะเป็นการพัฒนาตัวเองไปอีกขั้นมีอะไรที่ท้าทายมากขึ้นกว่าเดิม ด้วย mindset แบบนี้ การใช้ชีวิตในต่างประเทศได้เจอวัฒนธรรมใหม่ ผมจะพยายามเรียนรู้และปรับตัวให้กลมกลืน ขณะเดียวกันก็มีรุ่นพี่ที่อยู่มาก่อนคอยให้คำแนะนำด้วยอีกทาง
“ที่ฟิลิปชินส์ใช้ 2 ภาษา คือภาษาตากาล็อก กับภาษาราชการคือภาษาอังกฤษ เราก็พอมีพื้นฐานภาษาอังกฤษอยู่บ้าง และเป็นโอกาสดีที่ได้ฝึกการฟังและการพูดเพิ่มขึ้นด้วยเพราะต้องใช้ทุกวัน เรื่องศัพท์เทคนิคไม่ค่อยมีปัญหาเนื่องจากใช้ในการทำงานอยู่แล้ว ส่วนภาษาตากาล็อกค่อนข้างยากเหมือนกันครับ แต่คนที่นั่นเขาจะรู้สึกดี ถ้าเราพยายามพูดตากาล็อกกับเขา แม้จะเป็นแค่คำพื้นฐาน”ในวันหยุด เพื่อนฟิลิปปินส์มักจะชวนพวกเราไปร่วมกิจกรรม ไปเรียนรู้วัฒนธรรมกับเขา คนที่นั่นค่อนข้างเป็นมิตรครับ การใช้ชีวิตก็คล้าย ๆ กับคนไทย ให้ความสำคัญกับครอบครัว ช่วงวันหยุดเราจะเห็นทุกคนไปทำกิจกรรมกับครอบครัว เวลาทำงานเขาก็มองทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกัน ก็เลยสนิทกันง่าย”
COLLABORATE ทุกความหลากหลาย ก้าวข้ามทุกอุปสรรค
“สิ่งที่ผมประทับใจคือ ทุกคนทำงานด้วยเป้าหมายเดียวกันและพยายามหาแนวทางการทำงาน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในแต่ละขั้น การมีเป้าหมายย่อย ๆ ในแต่ละกระบวนการ ทำให้เราได้เรียนรู้ร่วมกัน เป็น leaning experience โดยเฉพาะตอนที่เจอกับสถานการณ์โควิด 19 ระลอกแรก ทุกคนมีความกังวลถึงสุขภาพและความปลอดภัยของทีมที่ต้องเข้าไปติดตั้งเครื่องจักร เราก็ต้องมาร่วมกันวางแผน แก้ไข และช่วยกันสนับสนุนจากทุกฝ่าย จึงทำให้ผ่านไปได้ เป็นการร่วมมือหรือ collaborate จากทุกคน ทุกเชื้อชาติ ที่ผมรู้สึกประทับใจมาก
“แนวคิดการทำงานของผม นอกจากขอบเขตงานที่ตัวเองรับผิดชอบอยู่ผมจะมองไปถึงงานของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย บางครั้งอาจต้องทำงานเกินกว่าหน้าที่รับผิดชอบบ้าง เกินขอบเขตของตัวเองบ้าง เพื่อให้งานในภาพรวมราบรื่นมากขึ้น
“ปัจจุบัน SCGP ขยายธุรกิจไปในหลากหลายประเทศ ทั้งเวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย อังกฤษ สเปน ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีของพนักงาน ที่จะได้มีโอกาสไปทำงานต่างประเทศมากขึ้น ได้เปิดโลกทัศน์เรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ ๆ ก็อยากเชิญชวนเพื่อนพนักงานให้ลองคว้าโอกาสนี้ไว้ เพื่อพัฒนาตนเองและเรียนรู้จากความท้าทายใหม่ ๆ ที่เข้ามาในมุมขององค์กร เมื่อคนของเราเก่งขึ้น องค์กรเราก็จะมีความเข้มแข็งมากขึ้น และสามารถปรับตัวได้ในสถานการณ์ที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบันได้ครับ”