H&M แบรนด์แฟชั่นชั้นนำจากประเทศสวีเดน ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1947 มานานกว่า 70 ปี มีจุดเด่นตรงที่เป็นแบรนด์แฟชั่นที่เข้าถึงง่าย นำเทรนด์ และมีคอลเลคชั่นเสื้อผ้าที่หลากหลายครอบคลุมทั้งผู้หญิง ผู้ชาย และเด็ก ทำให้ H&M เป็นแบรนด์แฟชั่นที่อยู่ในการรับรู้และเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภควงกว้าง และมีสาขากระจายอยู่ทั่วโลก อย่างในประเทศไทยก็มีมากกว่า 34 สาขา
ต่อยอดไอเดียรักษ์โลกจากสิ่งที่ธุรกิจมีอยู่แล้ว
H&M เป็นหนึ่งแบรนด์ Fast Fashion เบอร์ต้น ๆ ของโลก ที่ใส่ใจกับแนวคิดเรื่องความยั่งยืนมาโดยตลอด อีกทั้งยังชูให้เป็นหนึ่งในจุดยืนด้านสิ่งแวดล้อมของแบรนด์ด้วย เช่น โครงการ Loop ให้ลูกค้านำเสื้อผ้าเก่ามารีไซเคิลและแลกเปลี่ยนเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ การส่งเสริมการใช้เส้นใยธรรมชาติที่ปลูกโดยไม่ใช้สารเคมี หรืออย่างแคมเปญ H&M Sustainable Bag เปลี่ยนถุงช็อปปิงเป็นไม้แขวนเสื้อ ถือเป็นไอเดียที่มีกระแสตอบรับดีจากกลุ่มลูกค้า แสดงถึงความเข้าใจหลักการเรื่อง Sustainable Packaging อย่างแท้จริงว่าวัตถุประสงค์หลักคือ การสร้างผลกระทบหรือความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด H&M จึงเลือกดีไซน์แคมเปญนี้ออกมาอย่างเรียบง่าย แต่แฝงไว้ด้วยความคิดสร้างสรรค์ การประยุกต์ใช้วัสดุรีไซเคิล และคำนึงถึงการปรับเปลี่ยนประโยชน์การใช้งาน ด้วยการทำให้ถุงช็อปปิงจาก H&M สามารถพับตามขั้นตอนแล้วเปลี่ยนเป็นไม้แขวนเสื้อได้
ตอบโจทย์เทรนด์ด้วยความเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย
H&M Sustainable Bag ได้เลือกใช้วัสดุที่เน้นสัดส่วนของกระดาษที่สามารถรีไซเคิลได้ถึง 80% เพื่อลดการสร้างขยะ เนื่องจาก H&M รู้ดีว่ากลุ่มเป้าหมายหลักของแบรนด์คือ กลุ่มคนรุ่นใหม่อายุน้อย อยู่ระหว่าง 18 – 35 ปี ซึ่งผู้บริโภคกลุ่มนี้จะให้ความใส่ใจสิ่งแวดล้อม และพร้อมสนับสนุนผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ให้ความสำคัญกับหลักความยั่งยืน พวกเขาจึงชื่นชอบแบรนด์ที่มีโซลูชันด้านแพคเกจจิ้งที่ตอบโจทย์ด้านความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เรียบง่าย แต่ได้ใจลูกค้าไปเต็ม ๆ
H&M มองขาดว่าการออกแบบถุงช็อปปิงที่คำนึงถึงมุมมองด้านความยั่งยืน และการนำกลับมาใช้ใหม่ จะช่วยเพิ่ม Brand Loyalty ในกลุ่มเป้าหมายได้ นอกจากนี้ การดีไซน์ถุงช็อปปิงที่เปลี่ยนเป็นไม้แขวนเสื้อของ H&M ยังดูเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน มีความสนุกและดึงดูดใจ และมีคอนเซ็ปต์ Less is More ที่เด่นชัด สะท้อนถึงความใส่ใจจากแบรนด์ได้อย่างแท้จริงด้วย
แนวคิดการออกแบบ H&M Sustainable Bag เป็นอีกหนึ่งแคมเปญที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้หลาย ๆ ธุรกิจได้ดี เพราะการสร้างสรรค์หรือสานต่อแนวคิดด้านความยั่งยืนควบคู่ไปกับการทำธุรกิจ ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องใหม่ หรือเรื่องไกลตัว แค่ลองมองย้อนดูสิ่งที่เรามีอยู่ กระบวนการอะไรบ้างที่เราสามารถปรับเปลี่ยนไปสู่ความยั่งยืนได้บ้าง เพราะสิ่งเดิมนั้นอาจมีพลังโน้มน้าวกลุ่มผู้บริโภคหรือลูกค้าให้เข้ามามีส่วนร่วมได้ง่ายกว่า ต่อให้เป็นเรื่องแสนธรรมดาอย่างถุงช็อปปิงของ H&M อาจทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่เป็นจุดเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคได้เช่นกัน
อ้างอิงจากคอลัมน์ Wow around ใน a LOT Vol.35