SCGP Newsroom

19

ศรีนานาพร สร้างคุณค่าให้ธุรกิจและสังคม
ผ่านบรรจุภัณฑ์ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

Loading Data...

กว่า 3 ทศวรรษจากธุรกิจยี่ปั๊วขนมปี๊บ สู่การเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายขนมขบเคี้ยวและเครื่องดื่มรายใหญ่ของประเทศ บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) ได้สร้างแบรนด์อย่างเจเล่ (Jele) เบนโตะ (Bento) ขาไก่โลตัสเวเฟอร์ และอีกหลากหลายแบรนด์ที่ผู้บริโภคคุ้นเคยเป็นอย่างดี ตลอดเวลา 33 ปีนับจากวันก่อตั้ง บริษัทฯ  ยึดมั่นเรื่องคุณภาพของสินค้าและความอร่อยเป็นหัวใจสำคัญ เพื่อความสุขให้ทุกคนในทุกช่วงเวลาของชีวิต

สร้างธุรกิจและสังคมเติบโตคู่ขนานกัน

คุณกิตติยา ชัยสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจไม่เพียงแต่สร้างนวัตกรรมด้านอาหาร เพื่อตอบโจทย์ทั้งเรื่องรสชาติ ความสะดวก และเทรนด์สุขภาพที่กำลังเติบโต แต่มุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภค ซึ่งเป็นแนวทางสร้างการเติบโตทั้งธุรกิจและสังคมอย่างยั่งยืนไปพร้อมกัน

บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพของห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบอย่างมีประสิทธิภาพ การพัฒนากระบวนการผลิต ไปจนถึงการสร้างความร่วมมือกับชุมชน เพื่อสร้างคุณค่าร่วมกันระหว่างบริษัทกับผู้มีส่วนได้เสียในทุกภาคส่วน และกำกับดูแลการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามกรอบกฎหมายและระเบียบบริษัท

มุ่งสู่ Carbon Neutrality ด้วยบรรจุภัณฑ์ยั่งยืน

“หนึ่งในก้าวสำคัญของบริษัทฯ คือ การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่ได้รับการรับรอง Carbon Footprint ซึ่งได้ร่วมกับ SCGP ในการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยให้บรรลุเป้าหมาย Carbon Neutrality ภายในปี 2575 เพราะบรรจุภัณฑ์เป็นองค์ประกอบที่มีสัดส่วนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงที่สุดในห่วงโซ่อุปทาน การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่ได้รับการรับรอง Carbon Footprint จึงไม่ใช่แค่เรื่องการสร้างภาพลักษณ์องค์กรหรือการทำตาม ESG แต่เป็นการตัดสินใจในเชิงกลยุทธ์บนฐานข้อมูลวิทยาศาสตร์ และพฤติกรรมผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น”

 

การร่วมงานกับ SCGP จึงไม่ใช่เพียงการเลือกซัปพลายเออร์ แต่คือการเลือก “Sustainability Partner” ที่มีวิสัยทัศน์ร่วมกัน เพราะการดำเนินงานด้าน ESG ต้องอาศัยการสร้าง Ecosystem ไม่ใช่การเดินเพียงคนเดียว การจับมือกับ SCGP จึงนำไปสู่การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ ที่ออกแบบให้เหมาะสมกับสินค้า ใช้วัตถุดิบอย่างคุ้มค่า ลดการใช้พลังงานตลอดห่วงโซ่อุปทาน และส่งเสริมการใช้วัสดุทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งในรูปแบบที่รีไซเคิลง่ายหรือย่อยสลายได้ทางชีวภาพ เป็นการลดผลกระทบต่อโลกอย่างยั่งยืนในระยะยาว

 

ESG โอกาสใหม่ทางธุรกิจ สร้างความน่าเชื่อถือแบรนด์

คุณกิตติยายังมองว่า การดำเนินธุรกิจภายใต้กรอบ ESG ช่วยเปิดโอกาสใหม่ให้บริษัทฯ เนื่องจากแนวทาง ESG ช่วยทั้งลดต้นทุนระยะยาว เช่น ลดของเสีย ลดพลังงานจากการขนส่ง และสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศที่มาตรการด้านสิ่งแวดล้อมเข้มงวดขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งการแสดงปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ชัดเจนบนบรรจุภัณฑ์ ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้ง่ายขึ้น เป็นการสร้างความน่าเชื่อถือ และดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ไปพร้อมกัน

 

“เราเชื่อว่าบรรจุภัณฑ์ที่ดีไม่ได้หมายถึงแค่สวยงามหรือทนทาน แต่ต้องเล่าเรื่องราวความใส่ใจของแบรนด์ต่อโลกใบนี้ และพร้อมจะเดินไปกับ SCGP ในการสร้างมาตรฐานใหม่ของบรรจุภัณฑ์ไทยที่ยั่งยืนและแข่งขันได้ในระดับโลก”

 

ด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างสมดุลระหว่างธุรกิจ ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม บริษัทฯ จึงส่งต่อทั้งความอร่อยให้ผู้คนทุกช่วงวัย และช่วยสร้างโลกที่ยั่งยืนสำหรับคนรุ่นต่อไป ตอกย้ำบทบาทผู้นำด้านขนมและเครื่องดื่มที่พร้อมเติบโตเคียงข้างสังคมไทย และแข่งขันบนเวทีโลกได้อย่างภาคภูมิ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Loading Data...