a LOT ฉบับนี้ เราชวน 2 พนักงานจากทีมน้องใหม่ Smart Industrial Solutions ทีมที่มุ่งมั่นผลักดันการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีภายในองค์กรมาต่อยอดสร้างคุณค่าและมูลค่า จับมือส่งเสริมธุรกิจอุตสาหกรรมไทย มาแชร์มุมมองการเรียนรู้และการทำงานที่แม้จะเริ่มต้นที่ 2 คน ก็สามารถพิชิตภารกิจใหญ่ไม่ธรรมดาได้
“ทีมเราจัดหานวัตกรรมโซลูชันที่เกี่ยวกับเครื่องจักร การซ่อมบำรุง และบริการสำหรับโรงไฟฟ้า (Power plant service) ให้ บริการลูกค้าภายนอก SCGP เพื่อให้ลูกค้ามีความมั่นคงด้านเสถียรภาพและความพร้อมของการดำเนินการผลิต (Plant Reliability) สามารถเดินเครื่องจักรได้ต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ
“ด้วยงานที่เปลี่ยนไป มีหลายเรื่องที่ต้องปรับตัว ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้มากขึ้น เช่น การใช้ Generative AI รวมถึงการเขียน Prompt เพราะเวลามีเทคโนโลยีออกมาใหม่ในตลาด จะได้รู้ เข้าใจ และตามเทรนด์ทันด้วยค่ะ อีกบทบาทคืองานขาย ในฐานะที่เราเป็นตัวแทนบริษัท สิ่งที่เราทำหรือสื่อสารออกไปจะสะท้อนภาพลักษณ์ของบริษัท อย่างแรกเลยคือ ต้องรักษาคำพูดให้น่าเชื่อถือ ให้ลูกค้าไว้วางใจเราได้ เช่น ถ้ารับปากว่าส่งของได้เดี๋ยวนี้ ก็คือต้องส่งได้เดี๋ยวนี้ อาจจะต้องยอมสละเวลาบ้าง
เพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่มีปัญหา เพื่อที่จะสร้างความเชื่อใจให้กับลูกค้าค่ะ
“สิ่งที่สำคัญคือ Passion ในการทำงาน ยอมรับว่าออกตลาดช่วงแรก ๆ กังวลมาก แต่เมื่อไหร่ที่เราเจอปัญหา พอหันไปข้างหลังจะเห็นว่ามีพี่ ๆ ที่คอยช่วยเหลือและสนับสนุนอยู่ บางงาน เราต้องอาศัยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านอื่นมาช่วย ขอคำปรึกษา เขาจะช่วยเราหาโซลูชัน พร้อมลุยงานไปด้วยกันกับเรา ทำให้เราไม่กังวลและพร้อมที่จะเดินหน้าไปด้วยกัน”
สุพิณญา สุภาแจ่ม (แฟน)
Manager – Smart industrial Solutions
“ทีมเรามีหน้าที่เป็นตัวกลางประสานงาน เชื่อมระหว่างโรงงานและหน่วยงานภายในทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า ลักษณะงานของเราคล้ายการตัดสูท ไม่ใช่เสื้อสำเร็จ เราต้องเก็บความต้องการของลูกค้ามา Custom ทุกเคส นำมาแจ้งโรงงานเพื่อดีไซน์แอปพลิเคชันที่ออกแบบให้ได้ฟังก์ชันและมี Ecosystem ที่เหมาะสม
“การทำงานปรับตัวค่อนข้างเยอะ เพราะหน้างานผมเปลี่ยนไปเยอะมาก จากเดิมที่ขายกระดาษ ตอนนี้เป็นสินค้าหรือโซลูชันสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรม การสื่อสารเป็นทางการมากขึ้น วิธีการทำงานคือ การเก็บโอกาส เก็บ Insight เก็บ Pain Point ข้อมูลที่ได้มา มองหาช่องทาง และหาทีมวิศวกรที่เหมาะสม เพื่อไปนำเสนอลูกค้าด้วยกัน
“สิ่งสำคัญคือ การฟังลูกค้าให้เยอะ และสื่อสารด้วยภาษาเดียวกัน เพราะถ้าลูกค้าเข้าใจได้ง่าย มองเห็นเป็นเรื่องเดียวกันมากแค่ไหน มันคือความ Seamless และเราต้องสร้างความเชื่อมั่น ทำให้ลูกค้าเห็นว่า เราไว้วางใจและเชื่อถือได้ เวลามีอะไรเขาจะได้นึกถึงเราก่อน
“อีกอย่างคือ ทีมหลังบ้าน ที่คอยสนับสนุนเพื่อตอบทุกโจทย์ของลูกค้าได้ เพราะสินค้าหรือโซลูชันเราเป็นเรื่องใหม่ในตลาด ออกตลาดไปตอนแรกก็ค่อนข้างกังวล แต่พอเจอปัญหา หันหลังกลับมาแล้วมีคนคอยช่วยหาโซลูชันให้ เราก็รู้สึกมั่นใจและพร้อมลุยต่อไปจนสู่ความสำเร็จให้ได้ครับ”
ธิติภัทร์ เจริญกิจสุพัฒน์ (บอล)
Account Executive