
📊 “โลกธุรกิจกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทั้งความหลากหลายของอำนาจ การเติบโตที่ชะลอตัว การหยุดชะงักของการค้า บทบาทของจีนที่เปลี่ยนไป นโยบายอุตสาหกรรม แร่ธาตุวิกฤต และ AI
.
เราสามารถเปลี่ยนความไม่แน่นอนให้เป็นโอกาส และวางตำแหน่งธุรกิจของเราให้เติบโตได้ไม่ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ความท้าทายไม่ใช่การทำนายอนาคต แต่คือการสร้างความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับตัว”
.
ประเด็นสำคัญจากเวที SCG Senior Management Conference 2025 โดย Mr. Bob Willen, Managing Partner and Chairman – Kearney บริษัทที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์ระดับโลก ภายใต้หัวข้อ ‘The Future of Business: Navigating Uncertainty and Driving Growth’ แสดงให้เห็นว่าโลกกำลังเปลี่ยนจาก ‘ยุคแห่งโอกาส’ ไปสู่ ‘ยุคแห่งความเสี่ยง’ สิ่งที่ผู้นำต้องทำวันนี้ คือ สร้างองค์กรที่ยืดหยุ่น ปรับตัวไว และพร้อมรับมือความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นได้ทุกวัน
.
Mr. Willen ได้กล่าวถึงแรงขับเคลื่อนสำคัญที่เปลี่ยนแปลงโลกธุรกิจในปัจจุบัน ได้แก่
.
🌍 โลกหลายขั้วอำนาจ (Multipolarity)
เศรษฐกิจและการเมืองกระจายตัวมากขึ้น ทำให้กฎเกณฑ์แต่ละภูมิภาคไม่เหมือนกัน
📈 นโยบายการค้าและภาษี (Trade Fragmentation)
ภาษีศุลกากรเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบเกือบร้อยปี จนเกิดความเสี่ยงด้านต้นทุนและส่งออก
🇨🇳 แรงกดดันจากจีน (China Factor)
กำลังการผลิตล้นตลาด อุปสงค์ภายในประเทศชะลอ สร้างการแข่งขันด้านราคาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
🏭 นโยบายอุตสาหกรรม (Industrial Policy Surge)
รัฐบาลทั่วโลกใช้มาตรการสนับสนุนอุตสาหกรรม ทำให้เกิดความเสี่ยงด้านการเมือง
⛏️ แร่ธาตุวิกฤติ (Critical Minerals)
ต้องมีการจัดการที่มั่นคงและมีจริยธรรม
🤖 AI Revolution
การลงทุนใน AI จะทะลุ 375,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2025 ธุรกิจต้องเร่งใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างความได้เปรียบ
.
สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้การแข่งขันสูงขึ้น การค้าไม่แน่นอน ขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสใหม่ให้ธุรกิจไทยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพิ่มประสิทธิภาพ พร้อมรับมือกฎเกณฑ์ ESG ที่เข้มงวดขึ้น
.
🚩 ซึ่ง Mr. Willen ได้แบ่งปัน 5 กลยุทธ์ที่ผู้นำยุคนี้ต้องมี ท่ามกลางโลกที่เปลี่ยนไป นั่นก็คือ
.
1. ยกระดับประสิทธิภาพต้นทุน (Cost Efficiency) : เมื่อต้นทุนกลายเป็นสุขอนามัยพื้นฐานของธุรกิจ ดังนั้นต้องมีวินัยด้านการจัดการต้นทุน เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันระยะยาว
2. สร้างความแตกต่างเหนือราคา (Differentiation Beyond Price) : ชัยชนะในตลาดไม่ได้อยู่ที่ราคาต่ำสุด แต่เกิดจากการเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง และมอบโซลูชันแบบครบวงจรที่ตอบโจทย์ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
3. ลงทุนใน AI และข้อมูล (AI Investment) : มอง AI เป็นเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ เพื่อยกระดับการตัดสินใจ การบริหารจัดการ และการสร้างมูลค่าใหม่ให้ธุรกิจ
4. ภาวะผู้นำที่ขับเคลื่อนด้วยคุณค่า (Values-Based Leadership) : ความโปร่งใส ความซื่อสัตย์ และความรับผิดชอบต่อสังคม คือหัวใจในการสร้างความเชื่อมั่นกับพนักงาน ลูกค้า และพันธมิตร
5. ความสามารถในการวางแผน (Scenario Planning) : ต้องไม่ยึดติดกับเส้นทางเดียว แต่ต้องมองอนาคตหลายรูปแบบ พร้อมทดสอบความแข็งแกร่งของกลยุทธ์ในทุกสถานการณ์
.
🧑💼 บนเวที SCG Senior Management Conference 2025 ครั้งนี้ สะท้อนแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ SCGP ยึดมั่นมายาวนาน จากการใช้เครือข่ายฐานการผลิตในหลายประเทศเพื่อลดความเสี่ยงของซัพพลายเชน การปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับนโยบายการค้าในแต่ละภูมิภาค ไปจนถึงการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะตลาด เช่น มาตรฐานสิ่งแวดล้อมของยุโรป หรือข้อกำหนดด้านสุขอนามัยของสหรัฐฯ
.
ที่สำคัญ SCGP ยังสร้างความแตกต่างเหนือการแข่งขันด้านราคา ด้วยการนำเสนอ End-to-End Packaging Solutions ครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบ การผลิต จนถึงบริการหลังการขาย
.
SCGP ยังผสาน เทคโนโลยี AI และ Data Analytics เข้ากับการออกแบบบรรจุภัณฑ์ เพื่อเข้าใจตลาดเฉพาะกลุ่มได้ลึกขึ้น พร้อมร่วมวางแผนกับลูกค้าในรูปแบบ Collaborative Scenario Thinking เพื่อพัฒนากลยุทธ์การผลิตและจัดจำหน่ายที่พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์
.
แม้โลกธุรกิจวันนี้จะเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน แต่สิ่งสำคัญคือ การปรับตัวอย่างมีเป้าหมาย และเสริมความยืดหยุ่นให้กับองค์กรในทุกมิติ เพราะผู้นำที่เข้าใจทิศทางและเตรียมพร้อมได้ก่อน คือผู้ที่จะพาธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคงในอนาคต.
.
#SCGP #GROWTH #SCGPGROWTH