จัดหาจัดซื้ออย่างยั่งยืน
คุณเศรษฐา ทวีศรี รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัทแพนอินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ได้เล่าถึงบทบาทและภารกิจของบริษัท หลังการก่อตั้งใน พ.ศ. 2515 หรือกว่า 52 ปีมาแล้ว ที่เริ่มต้นจากการเป็นบริษัทนำเข้าสินค้าเข้ามาจําหน่ายในประเทศไทย ก่อนจะเป็นบริษัทจัดซื้อกลางแบบครบวงจรให้กับกลุ่มบริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ในเวลาต่อมา
“ประมาณ 20 ปีก่อน เราได้รับแต่งตั้งเป็นบริษัทจัดซื้อกลางให้กับกลุ่มไทยเบฟฯ ครอบคลุมการจัดซื้อประมาณ 170 บริษัทในกลุ่มฯ โดยความตั้งใจของเราคือ การเป็น Group Procurement Shared Service หรือเป็นศูนย์กลางด้านงานจัดซื้อจัดหาสินค้าและบริการแบบครบวงจร ที่มีการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพตามหลักธรรมาภิบาล พร้อมยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจตามหลักปฏิบัติในการจัดหาอย่างยั่งยืน (Sustainable Procurement) ให้กับกลุ่มบริษัทฯ ภายใต้พันธกิจการให้บริการจัดหาสินค้าและบริการอันเป็นเลิศทั้งในระดับท้องถิ่นและสากล ด้วยองค์ความรู้ ความชำนาญ และมาตรฐานสูงสุดของความเป็นมืออาชีพด้านการจัดซื้อ
“นอกเหนือจากการจัดซื้อให้ได้ราคาที่ดี ได้คุณภาพที่ดีแล้ว เราจะมุ่งเน้นมิติความยั่งยืนด้วยขณะเดียวกันต้องทํางานร่วมกับคู่ค้า โดยช่วยให้เขาไปสู่เป้าหมายเดียวกับเรา ในเรื่อง Net Zero และ Scope 3 GHG Emissions Reduction ด้วย”
แม้ว่าการดำเนินธุรกิจจัดซื้อกลางจะไม่ได้มีกิจกรรมเกี่ยวกับการผลิตโดยตรง แต่บริษัทยังให้ความสำคัญอย่างมากในเรื่องการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมที่อยู่เหนือการควบคุม (Other Emissions Indirect) ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวมีสัดส่วนมากที่สุดของ Carbon Footprint ครอบคลุมถึงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เช่น การจัดซื้อจัดหาสินค้าและบริการ การขนส่งสินค้าจากต้นน้ำและปลายน้ำ การเดินทางเพื่อธุรกิจ และการจัดการของเสีย แม้จะไม่ได้เป็นแหล่งที่องค์กรควบคุมหรือเป็นเจ้าของก็ตาม
“ประเด็นสําคัญของการจัดการห่วงโซ่อุปทานด้านความยั่งยืนจะมี 5 ด้านด้วยกันคือ 1. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) 2. การจัดการน้ำ (Water Management) 3. สิทธิมนุษยชน (Human Rights) 4. อาชีวอนามัยและความปลอดภัย (Occupational Health and Safety) และ 5. จริยธรรมทางธุรกิจ (Business Ethics) ซึ่งเราได้นํามาเป็นหลักการพัฒนาความยั่งยืนในมิติของงานจัดซื้อจัดจ้าง 3 เรื่องด้วยกัน เรื่องที่ 1 การคัดกรองผู้ค้า (Supplier Screening) เรื่องที่ 2 การประเมินคู่ค้า (Supplier Assessment) และเรื่องที่ 3 การพัฒนาคู่ค้า (Supplier Development)”
ESG กับการจัดการห่วงโซ่อุปทาน
การดำเนินงานแบบ ESG มีความสําคัญมาก โดยเฉพาะขอบเขตการทํางานร่วมกับคู่ค้า ซึ่งบริษัทได้จัดให้มีกิจกรรม Business Partner Award ขึ้น เพื่อเปิดพื้นที่ให้คู่ค้าแต่ละรายนําเสนอโครงการดี ๆ ในการช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ
“เราทํามาแล้ว 8 ปี ช่วงแรกเราต้องการที่จะพัฒนาคู่ค้าในเรื่องความสามารถในการส่งมอบสินค้าได้ตรงตามเวลาและได้คุณภาพ ต่อมา เราเห็นความสําคัญของความยั่งยืน จึงเพิ่มเกณฑ์เรื่องความยั่งยืนเข้ามา ซึ่งเราอยากพัฒนาคู่ค้าไปกับเรา พยายามให้คู่ค้า เห็นความสำคัญของการซื้อวัตถุดิบต่าง ๆ มาผลิตสินค้าให้กับเรา การได้มาซึ่งทรัพยากร ถูกต้อง ถูกที่หรือไม่ และที่สำคัญใช้ทรัพยากรมากเกินไปหรือเปล่า นี่คือหนึ่งในโครงการที่เราคิดว่ามีความสําคัญในการพัฒนาคู่ค้าอย่างต่อเนื่อง
“อีกเรื่องหนึ่งคือ เราให้ความสำคัญกับการรับรองด้านความยั่งยืน เราจะขอเอกสารรับรอง (Certificate) จากคู่ค้า เพราะสินค้าที่จะนํามาใช้ต้องเป็นสินค้าที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมและไม่เบียดเบียนสังคม
“เราเลือกใช้บรรจุภัณฑ์จากคู่ค้าที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจบนแนวคิดความยั่งยืนเช่นเดียวกัน รวมถึงให้ความสำคัญในเรื่องสังคมไปพร้อมกันด้วย เช่น มีการจ้างแรงงานที่ถูกกฎหมาย มีจริยธรรม มีความโปร่งใส และไม่เอาเปรียบสังคมในทุกมิติ
“สิ่งที่เราต้องการในการจัดซื้อบรรจุภัณฑ์กระดาษคือ เอกสารที่รับรองด้านความยั่งยืน เพื่อยืนยันว่า สินค้าดังกล่าวผลิตโดยคํานึงถึงการลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ บรรจุภัณฑ์กระดาษที่เราใช้อยู่ปัจจุบันจะมีการรับรองเครื่องหมาย FSC (Forest Stewardship Council) ผู้บริโภคจะรู้ได้ทันทีว่า บรรจุภัณฑ์กระดาษนี้ถูกผลิตขึ้นตามแนวทางด้านความยั่งยืน ไม่ได้มาจากการตัดไม้ทําลายป่า และสามารถรีไซเคิลได้ เพื่อการใช้ทรัพยากรอย่างมีประโยชน์สูงสุด”
ทั้งนี้ FSC คือองค์กรที่ส่งเสริมการจัดการป่าไม้อย่างรับผิดชอบ การปรากฏสัญลักษณ์นี้บนบรรจุภัณฑ์ จึงแสดงถึงมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และผ่านการตรวจสอบตลอดห่วงโซ่อุปทานว่ามาจากป่าปลูกเชิงพาณิชย์ที่มีการบริหารจัดการอย่างรับผิดชอบ
พาร์ตเนอร์ที่ร่วมเดินทางตามปรัชญาเดียวกัน
แพนอินเตอร์เนชั่นแนลดำเนินธุรกิจภายใต้มาตรฐาน ISO 20400 ในการจัดซื้อจัดจ้างอย่างยั่งยืน หรือ Sustainable Procurement มีแนวทางให้คู่ค้าปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ Supplier and Business Partner Code of Practice ซึ่งคู่ค้าทุกรายต้องทำความเข้าใจและดำเนินการตามหลักการดังกล่าว หลังผ่านข้อกำหนดต่าง ๆ ในกระบวนการพิจารณาคู่ค้า
“เอกสารการรับรองด้านความยั่งยืนเป็นหนึ่งในเกณฑ์พิจารณาคู่ค้า ในกระบวนการ Bidding หรือสอบราคาการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าวัตถุดิบต่าง ๆ หรือบรรจุภัณฑ์
“ในส่วนของบรรจุภัณฑ์ยั่งยืน (Sustainable Packaging) เราโฟกัส 5 เรื่องด้วยกัน คือ 4R/1I
• Reduce ทําอย่างไรให้บรรจุภัณฑ์น้ำหนักลดลงได้บ้าง เพราะหมายถึงการลดทรัพยากรในการผลิตตัวบรรจุภัณฑ์
• Retrieve การเก็บกลับหลังบริโภค (หรือนําไปใช้แล้ว) จะสามารถเก็บกลับมา
ได้อย่างไรบ้าง
• Reuse & Recycle สามารถนํามาใช้ซ้ำและนำมารีไซเคิลใช้ใหม่ได้หรือไม่
• Innovation ที่ต้องมองไปยังต้นน้ำในการสร้างนวัตกรรมของสินค้า เราสามารถจะดีไซน์บรรจุภัณฑ์นี้ให้ดีขึ้นได้หรือไม่
“เหตุผลที่เราเลือก SCGP มาเป็นพันธมิตร อย่างแรกคือ ความเป็นผู้นําด้านโซลูชันบรรจุภัณฑ์ครบวงจรของภูมิภาค ซึ่งที่ผ่านมา หลายครั้งสิ่งที่เราได้รับก็เกิดจากนวัตกรรมของ SCGP รวมถึงการแชร์ข้อมูลกันอย่างสม่ำเสมอ SCGP ถือเป็น Top of Mind ของเราเลย เพราะมีแนวทางการปฏิบัติที่สอดคล้องกับเรา โดยเฉพาะเรื่อง ESG และการพัฒนาความยั่งยืน
“หลังจากทํางานร่วมกันมา รู้สึกประทับใจหลายเรื่อง อย่างแรกคือ การดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด ข้อนี้สําคัญมาก เวลาเราต้องการอะไร SCGP สามารถตอบสนองและให้คําตอบได้ในทันที อีกอย่างคือเรื่องความยืดหยุ่น เนื่องจากโลกเราเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การคิดค้นบรรจุภัณฑ์ใหม่ ๆ ของเราก็ได้รับการตอบสนองอย่างทันเวลา ทั้งเรื่องดีไซน์ใหม่ ๆ รวมถึงการแชร์ข้อมูล และ Market Insights ที่ทําให้เราตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายและทันท่วงที
“ในอนาคต เราจะมีหลักการสำคัญที่จะนำมาใช้คือ EPR (Extended Producer Responsibility หลักการที่ขยายความรับผิดชอบของผู้ผลิตไปยังช่วงต่าง ๆ ในวงจรชีวิตของบรรจุภัณฑ์) ทําให้เราต้องรับผิดชอบบรรจุภัณฑ์ที่นําไปใช้และเก็บกลับมาใช้ซ้ำ หรือนํามาสู่กระบวนการหมุนเวียน ซึ่งจะเป็นอีกโปรเจกต์หนึ่งที่เราจะคุยเพื่อพัฒนาร่วมกันกับ SCGP
“เช่นเดียวกับการทำงานในโครงการ Thailand Supply Chain Network (TSCN) ที่ทั้งเราและ SCGP รวมถึงองค์กรชั้นนำอีกหลายแห่ง ได้ร่วมกันดำเนินงานในการพัฒนาหรือช่วยให้คำแนะนำกับองค์กรขนาดเล็ก ในเรื่องการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เพราะเราคิดว่าการทํางานด้านความยั่งยืนนั้น ไม่สามารถทําเพียงหน่วยงานเดียวได้ สิ่งสําคัญคือ ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือร่วมพลังกันทํางาน เพื่อก้าวสู่เป้าหมายความยั่งยืนในอนาคตไปด้วยกัน” คุณเศรษฐากล่าวทิ้งท้าย