SCGP Newsroom

94

ข่าว

AI เติบโตไม่หยุด เป็นเพื่อนกับ AI ได้เร็ว ยิ่งส่งผลดีต่อแบรนด์

AI เติบโตไม่หยุดเป็นเพื่อนกับ AI ได้เร็ว ยิ่งส่งผลดีต่อแบรนด์
Loading Data...

ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ในวันนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้ช่วยสำคัญของโลกธุรกิจ ด้วยความสามารถที่หลากหลายและทรงพลังจนยากจะมองข้าม แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ ศักยภาพของ AI ที่สามารถพัฒนาและเรียนรู้ได้อย่างไม่รู้จบ ดังนั้น ความสามารถของ AI ที่เราเห็นในวันนี้ยังไม่ใช่จุดสิ้นสุดแน่นอน ใน Your Answers ฉบับนี้ ผศ. ดร.เอกก์ ภทรธนกุล จาก Chulalongkorn Business School ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดที่ติดตามความก้าวหน้าของ AI มาโดยตลอด จะมาร่วมแชร์มุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับวิธีการนำ AI มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อแบรนด์

AI เติบโตอย่างก้าวกระโดดในระดับ 10x

AI กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจนมีโอกาสพัฒนาไปสู่ระดับที่เรียกว่า “อัจฉริยะ” หรือ Artificial Genius (AG) ซึ่งคาดว่าไม่นานจะกลายเป็นความจริง จากเดิมที่ AI เรียนรู้จากข้อมูลจำนวนมหาศาล ซึ่งนำไปสู่การเกิดสติปัญญา ก็ไม่ต่างจากมนุษย์ที่หากเรียนรู้มากก็จะฉลาดขึ้น

“เราจะเห็นว่า AI พัฒนาตัวเองอย่างรวดเร็วมาก มีการคาดการณ์ว่า AI จะเติบโตในระดับ 10 เท่าในแต่ละปี หมายความว่า ปีนี้เก่งขึ้น 10 เท่า ปีหน้าเก่งขึ้น 100 เท่า และปีต่อไปก็จะเก่งขึ้น 1,000 เท่า การเติบโตนี้คือก้าวกระโดดอย่างแท้จริง”

ในช่วงหลัง เราเริ่มรู้จัก Generative AI ที่สามารถสร้างสิ่งใหม่จากข้อมูลที่มีอยู่ โดยนักการตลาดสามารถใช้ Generative AI ในเชิงกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เปรียบได้กับนักการตลาดที่มีทักษะทั้งด้านการคิดและการปฏิบัติ พร้อมที่จะปรับเปลี่ยนกลยุทธ์และเข้าใจลูกค้าได้อย่างลึกซึ้ง

5 มิติของการเปลี่ยนแปลงในยุค AI

1. เก่ง:
วันนี้นักการตลาดสามารถใช้เครื่องมืออย่าง Microsoft Copilot ในการวิเคราะห์ SWOT ของแบรนด์หรือคู่แข่งได้เพียงไม่กี่คลิก โดย AI จะสร้างไฟล์ Word และแปลงเป็น PowerPoint ที่ตกแต่งเรียบร้อยพร้อมคำอธิบาย สามารถนำเสนอผลงานได้ทันที ไม่ใช่แค่เป็นผู้ช่วยทำ แต่ยังเป็นผู้ช่วยคิด

2. เร็ว: ยกตัวอย่าง Suno AI โปรแกรมสร้างเพลงที่ใช้เวลาเพียง 2 นาทีในการแต่งเพลงจากเนื้อหาที่ป้อนเข้าไป ความเร็วนี้ทำให้การทำงานสร้างสรรค์สามารถเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. ศิลป์: AI อย่าง Midjourney และ Microsoft Designer ช่วยให้การสร้างสรรค์งานศิลปะเป็นเรื่องง่ายขึ้น ไม่ต้องผ่านกระบวนการซับซ้อนเช่นในอดีต

4. คุ้ม: AI ช่วยลดต้นทุนทางการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น การแต่งเพลงที่เคยมีต้นทุนสูง ปัจจุบันสามารถทำได้ในราคาหลัก 10 บาท

5. ง่าย: AI ทุกวันนี้สามารถเข้าใจคำสั่งได้แม้จะมีความคลาดเคลื่อน ทำให้การใช้งานง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพสูง แม้คำสั่งจะไม่ชัดเจนก็ตาม

AI: เครื่องมือทางการตลาดที่ให้ผลลัพธ์ที่ดี

ตัวอย่างการใช้ AI ของสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทยสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพในการสื่อสารโครงการฝึกอบรมออกสู่สาธารณชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“ครั้งนั้นเราต้องการโปสเตอร์สำหรับโปรโมตโครงการ โดยอยากสื่อสารภาพของห้องเรียนที่เด็กสอนผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นโจทย์ที่มีความย้อนแย้งอยู่ในตัว หากเป็นเมื่อก่อนคงต้องถ่ายภาพใหม่ แต่วันนี้เราใช้ Midjourney สร้างภาพและ ChatGPT 4.0 ช่วยคิดคำโปรย จากนั้นนำทั้งหมดไปใส่ใน Canva เพื่อออกแบบโปสเตอร์ กระบวนการทั้งหมดใช้เวลาเพียงเดือนเดียวและสามารถขายคอร์สได้หมดในทุกที่นั่ง”

การใช้ AI ในการจับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เช่น Google AdWords และ Google AdSense ทำให้การโฆษณามีความแม่นยำและใช้งบประมาณน้อยลง นี่คือช่วงเวลาที่ทุกแบรนด์ควรหันมาเป็นเพื่อนกับ AI ก่อนที่คู่แข่งจะนำ AI มาใช้อย่างชาญฉลาด

สิ่งสำคัญที่ควรระวังคือ แบรนด์ต้องเริ่มจากการมีข้อมูล (Data) ที่ถูกต้อง ได้มาอย่างถูกกฎหมาย และไม่ละเมิดจริยธรรม แม้ตอนนี้กฎระเบียบเรื่อง AI จะยังไม่ชัดเจน แต่กฎเรื่อง Data นั้นชัดเจนแล้ว ดังนั้น การดูแลข้อมูลให้ดีจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการทำให้ AI เป็นประโยชน์ต่อแบรนด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Loading Data...